“จุรินทร์” ผลักดัน 4 มาตรการเสริมแกร่งธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ สร้างรายได้เข้าประเทศ เตรียมสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลคอนเทนต์ไทยแลนด์ จัดเวทีเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ ดึงสถาบันการเงินช่วยเพิ่มสภาพคล่อง และสร้างแบรนด์ไทย เล็งนำร่องจัดงาน MOVE เจรจาธุรกิจออนไลน์ 25-27 พ.ค.นี้ ตั้งเป้ายอดขาย 1,000 ล้าน ดึงคนไทยที่ทำงานใน “วอลต์ ดิสนีย์-มาร์เวล” แนะนำประสบการณ์ให้คนรุ่นใหม่
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมแนวทางส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยสู่ตลาดโลก ร่วมกับ 6 สมาคม ได้แก่ สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ สมาคมดิจิตอลคอนเทนต์บันเทิงไทย สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย สมาคมอีเลิร์นนิงแห่งประเทศไทย และสมาคมธุรกิจบางกอกเอซีเอ็มซิกกราฟ ว่า ได้หารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและติดตามสถานการณ์ของภาคธุรกิจบริการที่ใหญ่มากภาคหนึ่งของประเทศ คือ ธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ หรือเรียกง่ายๆ ว่า ธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับภาพยนตร์ แอนิเมชัน รวมทั้งการทำโฆษณา เพลง เกม การ์ตูนในหลากหลายรูปแบบ โดยมูลค่าของธุรกิจในส่วนนี้รวมกันในแต่ละปีของประเทศไทยตกประมาณ 110,000 ล้านบาท และเป็นไปตามที่กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายที่สนับสนุนให้ภาคธุรกิจบริการภาคนี้เติบโตต่อไปในอนาคต เพราะว่าตลาดทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศกว้างใหญ่มาก
ในการสนับสนุนให้ภาคธุรกิจนี้เติบโตต่อไปในอนาคต กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมมาตรการทั้งหมด 4 เรื่อง ได้แก่ 1. เรื่องของการช่วยกันสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลคอนเทนต์ไทยแลนด์ขึ้นมา เพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูลและศูนย์รวมการทำธุรกิจทั้งในตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศของภาพยนตร์ ละคร แอนิเมชัน อีสปอร์ต เพลง หรือธุรกิจการ์ตูนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งในเรื่องของการศึกษา หรือ e-learning
2. ดำเนินการปรับรูปแบบของการจัดนิทรรศการ ซึ่งเดิมใช้กระบวนการจับคู่ธุรกิจ ให้ผู้ซื้อจากต่างประเทศเดินทางมาพบกับผู้ขายหรือผู้ผลิตดิจิทัลคอนเทนต์ในไทย แต่ปัจจุบันสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย จะปรับเปลี่ยนไปในรูปแบบการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ให้มากขึ้น ทั้งส่งเสริมตลาดในประเทศและส่งเสริมตลาดในต่างประเทศ โดยจะจัดให้ถี่ขึ้นและโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ธุรกิจนี้เติบโตได้เร็วขึ้น
3. เรื่องของการที่จะช่วยต่อลมหายใจให้กับธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ เนื่องจากขณะนี้เผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้หลายภาคส่วนติดขัดในเรื่องของการทำธุรกิจ จะช่วยดำเนินการจัดให้ธนาคารช่วยเหลือเงินสนับสนุนในรูปแบบของเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ โดยจะจัดพบปะกันระหว่าง SME แบงก์ หรือธนาคารอื่นที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการด้านดิจิทัลคอนเทนต์ โดยกระทรวงพาณิชย์จะจัดเวทีพบปะให้
4. ธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ของไทยที่มีความจำเป็นจะต้องสร้างแบรนด์ของคนไทยขึ้นมาเอง เพื่อแทนที่การรับจ้างผลิตเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์จะเข้ามาร่วมมือกับทั้ง 6 สมาคมในการจัดเวทีให้ภาคการผลิตของทั้ง 6 สมาคมได้มีโอกาสพบกับนักลงทุนต่างประเทศที่จะเข้ามาร่วมกันลงทุน และหน่วยงานภาครัฐที่มีนโยบายสนับสนุนในเรื่องของการทำธุรกิจคอนเทนต์ รวมทั้งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ด้วย เพื่อที่จะให้มีการจับคู่ลงทุนทางธุรกิจนี้ภายใต้แบรนด์ของคนไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม
นายจุรินทร์กล่าวว่า มีแผนจัดกิจกรรมสำคัญเพื่อสนับสนุนธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ในวันที่ 25-27 พ.ค. 2563 โดยจะจัดงานแสดงสินค้าที่ใช้ชื่อว่า MOVE หรือย่อมาจาก Multimedia online virtual exhibition ในรูปแบบของการจัดจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ผลิตของไทยประมาณ 50 บริษัท พบปะกับผู้ซื้อจากต่างประเทศซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้ามาพบปะประมาณไม่ต่ำกว่า 1000 รายในรูปแบบออนไลน์ คาดว่าจะสามารถทำให้เกิดการจับคู่ซื้อขายทางธุรกิจได้ประมาณ 350 คู่ และสามารถกำหนดยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 1000 ล้านบาทโดยประมาณ
นอกจากนี้ จะจัดสัมมนาแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นซึ่งกันและกันทั้งในรูปแบบของการให้ความรู้ในเรื่องของการให้ความคิดสร้างสรรค์จากประสบการณ์ของคนไทยที่ไปทำงานอยู่ที่แหล่งผลิตที่มีชื่อเสียงของโลก เช่น ในส่วนของวอลต์ ดิสนีย์ หรือมาร์เวล เป็นต้น ซึ่งเป็นคนไทยรุ่นใหม่ โดยได้มีโอกาสเดินทางไปพบกับท่านเหล่านี้ที่สหรัฐฯ มาแล้ว และพร้อมที่จะให้ความรู้ผ่านออนไลน์มายังคนรุ่นใหม่ของไทยที่เป็นนักออกแบบ ผู้ที่ทำสตอรีบอร์ด ทำเรื่องราวหรือเป็นผู้ผลิต เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเทคนิค ให้ได้รับความรู้เพิ่มเติม เพื่อที่จะได้มาพัฒนาดิจิทัลคอนเทนต์ในส่วนของธุรกิจส่วนนี้ให้มีการพัฒนาให้ดีขึ้นสำหรับคนไทย