กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ตรวจโรงงานหน้ากากอนามัยซีพี พบสถานประกอบการสะอาด มีคุณภาพตามมาตรฐานการผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ชี้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนหน้ากากอนามัยได้ ด้านเครือซีพีภูมิใจถือเป็นประวัติศาสตร์ที่ได้ทำโรงงานหน้ากากอนามัยช่วยแก้ปัญหาประเทศในยามวิกฤต
หลังจากที่ "โรงงานซีพีหน้ากากอนามัยฟรีเพื่อคนไทย" สร้างเสร็จใน 5 สัปดาห์ตามกำหนดไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ โดย นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน พร้อมคณะฯ ได้เดินทางมาเยี่ยมชมโรงงานหน้ากากอนามัยฟรีเพื่อคนไทย ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินการภายใต้มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ และผลิตโดย บริษัท ซีพี โซเชียล อิมแพคท์ จำกัด โดยมี นายนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ นายภูมิชัย ตรัยดลานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจอุปกรณ์การเกษตร 2 บจ.เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม (KPI) ในฐานะหัวหน้าทีมควบคุมการก่อสร้างโรงงานหน้ากากอนามัยฟรีเพื่อคนไทย ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชมกระบวนการผลิตหน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับและผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.
นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โรงงานหน้ากากอนามัยของซีพีถือเป็นตัวอย่างสถานประกอบการที่ดี มีความสะอาด เป็นไปตามมาตรฐานการผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ โดยเป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หรือ Surgical Mask และด้วยกำลังการผลิตเดือนละ 3 ล้านชิ้นจะช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยได้ในระดับหนึ่ง ถือเป็นอีกบทบาทของภาคเอกชนที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาของประเทศ ทั้งนี้ กรมการค้าภายในได้ส่งสายตรวจกรมการค้าภายในมาประจำที่โรงงานผลิตหน้ากากอนามัยแห่งนี้จำนวน 2 คน เพื่อตรวจนับจำนวนหน้ากากอนามัยที่ผลิตได้ในแต่ละวัน รวมทั้งควบคุมการจัดส่งหน้ากากอนามัยเนื่องจากหน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม
ขณะที่ นายนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า ถือเป็นประวัติศาสตร์ของเครือซีพีในการทำหน้ากากอนามัย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเกิดภาวะขาดแคลนหน้ากากอนามัย ทั้งนี้มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าโรงงานฯ จะสามารถผลิตได้เต็มสูบเดือนละ 3 ล้านชิ้นได้ภายในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ โดยจะเร่งพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรอย่างเต็มที่เพื่อรองรับความต้องการหน้ากากอนามัยในช่วงวิกฤตและช่วยป้องกันการระบาดของโรคได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จะเป็นผู้แจกจ่ายหน้ากากอนามัยฟรีแก่แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ตามโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศไทย และเมื่อได้รับเพียงพอแล้วจึงจะแจกจ่ายแก่ประชาชนทั่วไปเป็นลำดับต่อไป