พลังงานบริสุทธิ์โอดโควิด-19 ปี 63 ส่งผลกระทบธุรกิจรถยนต์อีวีทำให้การส่งมอบล่าช้า หวั่นทำเป้าขายพลาด 5 พันคันในปีนี้ ยันธุรกิจไฟฟ้ายังเป็นรายได้หลัก และมีธุรกิจใหม่เสริมทำให้ปีนี้คงเป้ารายได้รวมแตะ 2.4 หมื่นล้านบาท
นางออมสิน ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ทำให้การส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ให้ลูกค้าคงต้องล่าช้าออกไป และยอดขายรถยนต์อีวีในปีนี้คงลดลงบ้างจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 พันคัน รวมทั้งธุรกิจไบโอดีเซลจะมีปริมาณจำหน่ายลดลงเพราะการเดินทางที่ลดลง โดยบริษัทคาดว่าจะทยอยส่งมอบรถยนต์อีวีได้ในช่วงไตรมาส 3/2563 ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการวางแผนร่วมกับลูกค้าเพื่อทำแผนการส่งมอบให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19
สาเหตุที่ทำให้การส่งมอบรถยนต์อีวีล่าช้าเนื่องจากชิ้นส่วนอุปกรณ์บางตัวต้องนำเข้าจากต่างประเทศ แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้การนำเข้าล่าช้าไป ดังนั้นบางชิ้นส่วนต้องหันมาใช้ของที่ผลิตในประเทศแทน รวมทั้งแท็กซี่สหกรณ์ก็ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่นกัน ดังนั้น แม้รถยนต์นั่งอีวีจะได้รับผลกระทบบ้างแต่บริษัทจะมีการส่งมอบรถยนต์ขนาดใหญ่อีวีเช่นเดิม
ส่วนธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทนไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้เต็มปีคิดเป็นกำลังผลิตรวม 664 เมกะวัตต์ รวมทั้งเริ่มเห็นผลประกอบการจากการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่จะทยอยเข้ามาตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์สารเปลี่ยนสถานะ หรือ Bio-PCM ที่เป็นนวัตกรรมและเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท สินค้าที่ผลิตได้จะเริ่มส่งออกไปญี่ปุ่นตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป
สำหรับเรือไฟฟ้าจะเปิดให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยาทันทีที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ขณะนี้บริษัทได้ผลิตเรือต้นแบบเสร็จเรียบร้อย รอการทดสอบและเริ่มผลิตเรือล็อตต่อไปแล้ว และสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้า EA Anywhere ได้ทยอยเปิดให้บริการเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะเตรียมความพร้อมรองรับการใช้งานของยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภทที่จะเติบโตขึ้นต่อไป
นางออมสินกล่าวต่อไปว่า ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ 7,388 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้สร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ กำลังผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง (Gwh) คาดแล้วเสร็จในปลายปี 2563
ดังนั้น ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2563 จะเห็นการเติบโตมีรายได้ตามเป้าที่ 24,000 ล้านบาท และคาดจะมีกำไรสุทธินิวไฮ โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจพลังงานทดแทนเนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบโควิด-19 และมีรายได้จากธุรกิจใหม่เข้ามาเสริมด้วย ทำให้สัดส่วนรายได้รวมของแต่ละกลุ่มธุรกิจของบริษัทจะเปลี่ยนไปในปีหน้าหลังจากที่ธุรกิจรถยนต์อีวี, เรือไฟฟ้า, สถานีชาร์จไฟฟ้า และโรงงานผลิตแบตเตอรี่จะแล้วเสร็จ ทำให้มีสัดส่วนจากธุรกิจไฟฟ้าลดลงเป็น 51% จากเดิมอยู่ที่ 72%
