“ศักดิ์สยาม” สั่งทุกหน่วยทำแผนลดงบปี 63 ลง 10% เร่งหารือสำนักงบฯ เตรียมพร้อมโยกงบเยียวยาผลกระทบ “โควิด-19” เผย “นายกฯ” หารือ ครม.ต้องดูแลสุขภาพ ปชช.ก่อน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานพิจารณาทำแผนในการปรับลดงบประมาณในปี 2563 ลง 10% เพื่อนำงบประมาณไปช่วยรัฐบาลในการดูแลสุขภาพประชาชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยให้แต่ละหน่วยงานเร่งหารือและตกลงกับสำนักงบประมาณภายในสัปดาห์หน้าและรายงานกลับมายังกระทรวงคมนาคม
ทั้งนี้ ในการปรับลดงบประมาณนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาโครงการแต่อย่างใด เช่น พิจารณาในส่วนของโครงการที่เป็นรายการงบผูกพัน หรือโครงการที่การเบิกจ่ายงบประมาณอาจจะดำเนินการไม่ทันในปีนี้ เป็นต้น
“นายกรัฐมนตรีได้กล่าวในที่ประชุม ครม. โดยให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพของประชาชนต้องมาเป็นอันดับแรก” รมว.คมนาคมกล่าว
โดยกระทรวงคมนาคมได้รับงบประมาณในปี 2563 วงเงินรวม 208,315.24 ล้านบาท
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในขณะนี้ ซึ่งรัฐบาลได้มีการยกระดับมาตรการต่างๆ ตาม พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ได้กำชับหน่วยงานด้านคมนาคมขนส่งสาธารณะในเรื่องมาตรการ "Social Distancing" โดยได้สั่งการแต่ละหน่วยงานทำคู่มือในการปฏิบัติตัวของผู้โดยสาร เมื่อใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และฝึกซ้อมพนักงานเจ้าหน้าที่ในการให้บริการที่ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยจากการติดเชื้อ
โดยต้องขอความร่วมมือประชาชนรับฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำของจ้าหน้าที่ในการรักษาระยะห่างในการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ และร่วมมือในการใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ใช้บริการ รวมถึงทำความสะอาดด้วยเจลแอลกอฮอล์ รวมถึงการใช้รถส่วนตัว หรือจักรยานยนต์รับจ้าง จะต้องลดการสัมผัสและใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
สำหรับยานพาหนะที่ต้องหยุดให้บริการในขณะนี้ ทั้งคมนาคมทางอากาศ ทางบก ทางราง ทางน้ำ เนื่องจากมีการลดจำนวนการให้บริการลงนั้น ให้แต่ละหน่วยงานตรวจสอบแผนการบำรุงรักษายานพาหนะเพื่อให้มีสภาพที่ดีอยู่เสมอ
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมได้มีการอำนวยความสะดวกต่างๆ แก่ประชาชนในการต่อใบอนุญาตต่างๆ เช่น ใบขับขี่รถยนต์ การต่อทะเบียนภาษี ที่หมดอายุในระหว่างนี้ให้ถือว่ายังถูกต้องตามกฎหมาย จนกว่าสถานการณ์จะยุติค่อยดำเนินการต่ออายุ
และขณะนี้ได้มีการพิจารณาให้ข้าราชการของกระทรวงคมนาคมทำงานที่บ้านได้เพื่อลดการเดินทาง และ ประชุมทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แทน พร้อมทั้งมีการรายงานผลการดำเนินงาน การให้บริการต่างๆ ภายใน 10.00 น.ของทุกวัน ภายใต้การทำงานบูรณาการร่วมกัน และรวดเร็ว เชิงรุก รอบคอบ โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ
ฝุ่น PM 2.5 ลด-ขสมก.ยังเดินหน้าทดสอบเครื่องกรองอากาศ
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในปัจจุบัน ในเขต กทม. ปริมณฑล มีค่า PM 2.5 พบว่าลดลง เนื่องจากการเดินทางในพื้นที่ลดลงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ขณะที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กำลังศึกษา พัฒนาเครื่องกรองอากาศ ซึ่งผลการทดสอบค่อนข้างดี เหลือการทดสอบในเรื่องความแข็งแรง อายุการใช้งาน และต้นทุน ที่เน้นสามารถผลิตได้เอง คาดว่าจะใช้เวลาอีกสักระยะจะสามารถตอบในทางเทคนิคและวิทยาศาสตร์ได้ชัดเจนขึ้น
ขณะที่ในการก่อสร้างโครงการต่างๆ ที่ต้องมีมาตรการลดฝุ่นละอองนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการตรวจสอบและควบคุมอยู่เสมอ