“สนธิรัตน์” เกาะติดสถานการณ์พลังงานใกล้ชิด ยอมรับพิษโควิด-19 อาจทำให้ยอดใช้น้ำมันปีนี้ส่อลบ 20% ต่ำเป็นประวัติการณ์หลังเติบโตต่อเนื่อง เช่นเดียวกับไฟฟ้า สั่ง กฟผ.เร่งดูแลไฟพร้อมป้อนประชาชนช่วงฤดูร้อนไม่ให้เกิดปัญหา
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงได้ติดตามสถานการณ์ด้านพลังงานอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดซึ่งมีผลกระทบต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจซึ่งอาจทำให้กระทบต่อการบริโภคน้ำมันในไทยที่มีการวิเคราะห์ว่าอาจลดลงประมาณ 20% ถือเป็นการลดลงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะเดียวกัน ในส่วนของการใช้ไฟฟ้านั้นคาดว่าไตรมาสแรกน่าจะเติบโตได้ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากอากาศร้อน การรณรงค์ให้อยู่บ้านเพื่อหยุดการระบาดของไวรัส ดังนั้นจึงมอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดูแลใกล้ชิดไม่ให้เกิดปัญหาตก ดับ แต่ในแง่ของปริมาณไฟฟ้าสำรองที่มีสูง 30% จะไม่กระทบให้ไฟฟ้าขาดแคลนแน่นอน
“ความต้องการใช้ไฟสูงสุดมักเกิดขึ้นช่วงฤดูร้อน และเมื่อหลายส่วนมีมาตรการ Work from Home เพื่อให้ประชาชน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดก็ให้ กฟผ.ติดตาม อย่างไรก็ตาม จากการปิดบริการหลายสถานที่ ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม ก็อาจจะทำให้การใช้ไฟส่วนนี้ลดลงไป ภาพรวมทั้งปีก็อาจทำให้ไฟฟ้าติดลบได้เช่นกัน” นายสนธิรัตน์กล่าว
สำหรับการใช้น้ำมันของไทยเดือน มี.ค.ช่วง 3 สัปดาห์แรก ลดลงไปแล้วกว่า 8% ส่วนความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของระบบเดือน ก.พ. เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2563 เวลา 19.00 น. มีค่าเท่ากับ 27,112.30 เมกะวัตต์ ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา 310.30 เมกะวัตต์ หรือลดลง 1.13%
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ.กล่าวว่า กกพ.ได้มอบให้ 3 การไฟฟ้าเตรียมพร้อมสำหรับความต้องการใช้ไฟในช่วงฤดูร้อนเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่อาจจะเพิ่มขึ้นในช่วงดังกล่าว พร้อมประสานงานกับ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ให้ดูแลด้านเชื้อเพลิงในการป้อนการผลิตไฟให้ได้อย่างสม่ำเสมอ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าไฟฟ้าจะมีเพียงพอกับความต้องการใช้ไฟอย่างแน่นอน
