ร.ฟ.ท.ขายตั๋วตามมาตรการ Social Distancing โดยรถนั่งชั้น 2 และ 3, ชั้น 2 และ 3 ปรับอากาศ ขายตั๋ว 25% ของจำนวนที่นั่ง ส่วนรถนอนชั้นที่ 2 และชั้น 1 ปรับอากาศ ขายตั๋ว 50% ของจำนวนที่นั่ง เพื่อความปลอดภัยส่วนรวม ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างรวดเร็วและมีการแพร่กระจายพบผู้ติดเชื้อทั่วภูมิภาคของประเทศไทย เพราะเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้ได้รับเชื้อ ซึ่งการรถไฟฯ ได้มีประกาศมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563
และต่อมารัฐบาลได้มีการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และได้มีข้อกำหนดฉบับที่ 1 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 กำหนดข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการต่างๆ และประชาชนตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพื่อใช้บังคับทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
ดังนั้น เพื่อเป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว การรถไฟฯ จึงขอกำหนดมาตรการเพื่อความปลอดภัยของส่วนรวมในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นระยะดังต่อไปนี้
1. การจำหน่ายตั๋วโดยสารรถไฟ ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป การรถไฟฯ จะใช้มาตรการ Social Distancing กับขบวนรถโดยสารเชิงพาณิชย์ (ขบวนรถที่มีการสำรองที่นั่ง) โดยการจำกัดการขายตั๋วเพื่อให้มีระยะห่างที่ปลอดภัยต่อการแพร่กระจายเชื้อในขบวนรถไฟ ดังนี้
1.1 รถนั่งชั้น 3 รถนั่งชั้น 3 ปรับอากาศ รถนั่งชั้น 2 และรถนั่งชั้น 2 ปรับอากาศ จะจำหน่ายตั๋วร้อยละ 25 ของที่นั่ง ทั้งนี้เมื่อจำหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้วจะไม่มีการจำหน่ายตั๋วอีก รวมทั้งตั๋วไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน)
1.2 รถนั่งและนอนชั้นที่ 2 รถนั่งและนอนชั้นที่ 2 ปรับอากาศ และรถนั่งและนอนชั้นที่ 1 ปรับอากาศ จะจำหน่ายตั๋วร้อยละ 50 ของที่นั่งทั้งหมด เมื่อจำหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้วจะไม่มีการจำหน่ายตั๋วอีก
โดยทั้งหมดเมื่อจำหน่ายตั๋วเต็มตามประเภทรถที่ระบุแล้วไม่พ่วงรถเพิ่มอีก เนื่องจากต้องนำรถไปใช้ตามมาตรการ Social Distancing กับขบวนรถอื่นที่มีความจำเป็น จึงขอให้ผู้โดยสารที่ไม่ได้สำรองที่ล่วงหน้างดการเดินทาง
สำหรับขบวนรถบริการเชิงสังคม (ระหว่างเมือง) ขบวนรถชานเมือง ขอให้ผู้โดยสารดำเนินการตามมาตรการ Social Distancing โดยรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลไม่น้อยกว่า 1-2 เมตร ตามข้อกำหนดฉบับที่ 1 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ซึ่งออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
ทั้งนี้ พนักงานประจำขบวนรถจะเป็นผู้พิจารณากำหนดที่นั่งให้ผู้ใช้บริการตามความเหมาะสมต่อไป
2. การซื้อตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟ และการโดยสารบนขบวนรถไฟ ผู้ใช้บริการซื้อตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟทุกแห่งจะต้องปฏิบัติ ดังนี้
2.1 ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้งเมื่อเข้าใช้บริการซื้อตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟและขณะโดยสารบนขบวนรถ
2.2 กรอกคำร้องประกอบการซื้อตั๋วโดยสาร ซึ่งต้องระบุชื่อ-สกุล เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก สัญชาติ เลขหมายโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ พร้อมเหตุผลในการเดินทาง และระบุที่พักปลายทาง
2.3 ผู้ใช้บริการจะต้องยืน หรือนั่งตามจุดที่เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
2.4 เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ จะดำเนินการคัดกรองการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนใช้บริการที่สถานีรถไฟทุกครั้ง หากพบอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ขอให้ผู้โดยสารหลีกเลี่ยงการเดินทาง หากจำเป็นต้องเดินทางขอให้มีใบรับรองแพทย์แสดง และกรอกแบบประเมินและรับรองตนเองเพื่อคัดกรองและยืนยันตนก่อนการเดินทาง
2.5 ในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ เช่น ผู้ใช้บริการที่มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป กลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว และกลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบลงมา ควรงดการเดินทาง เว้นแต่บุคคลกลุ่มดังกล่าวมีความจำเป็นตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563
กรณีเมื่อรัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ประกาศห้ามการเดินทางของประชาชน การรถไฟฯ จะงดให้บริการขบวนรถโดยสารทุกขบวนทั้งหมดในทันที
ทั้งนี้ หากผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วสำรองที่นั่งแล้วไม่ประสงค์เดินทาง สามารถนำตั๋วโดยสารมาขอคืนเงินได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง