ผู้จัดการรายวัน 360 - “วัธนเวคิน” ใส่เกียร์เร่งสปีดสาขา ปีแรกนี้วางเป้าถึง 15 สาขารวด เผยได้ทำเลชัดเจนแล้วอีก 6 แห่ง รวมเปิดได้ครบ 8 แห่งแรกภายในเดือนกรกฎาคมนี้แน่นอน พร้อมซุ่มโมเดลใหม่ๆ เตรียมไว้
นายสุพัชร วัธนเวคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีอีท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้พื้นที่ในการเปิดสาขาใหม่ร้านกาแฟ ทิม ฮอร์ตันส์ (Tim Hortons) ที่ชัดเจน โดยได้เซ็นสัญญากับเจ้าของพื้นที่เรียบร้อยแล้วอีก 6 แห่ง คือ เพลินจิตเซ็นเตอร์, ซีคอนสแควร์ศรีนครินทร์ และบางแค, เดอะพาร์คพระราม 4 และอีก 2 แห่งที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถเปิดสาขาได้รวมเป็น 8 แห่งแน่นอนภายในเดือนกรกฎาคมปีนี้ (2563) หลังจากที่เปิดไปแล้ว 2 สาขาแรก คือที่สามย่านมิตรทาวน์ เมื่อเดือนมกราคม และสาขาตึกอับดุลราฮิม เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา
ในช่วงแรกบริษัทฯ จะขยายสาขาในทำเลที่หลากหลาย ทั้งโครงการมิกซ์ยูส ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน พลาซา ย่านชุมชน เพื่อทำการศึกษาและเก็บข้อมูลตลาด พฤติกรรมผู้บริโภคที่หลากหลาย ขณะที่ตามแผนภายในของบริษัทฯ ทั้งปีนี้ (2563) มีเป้าหมายที่จะเปิดสาขาทิมฮอร์ตันให้ได้รวม 15 แห่ง ซึ่งอีก 7 สาขานั้น ยังไม่มีการตกลงด้านพื้นที่กับเจ้าของพื้นที่ แต่มั่นใจว่าจะสามารถเปิดได้ครบตามเป้าหมายแน่นอน และเป้าหมายระยะยาวภายใน 5 ปีแรกนี้จะเปิดสาขาให้ได้ครบ 100 สาขาในไทย
อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถเปิดเผยงบลงทุนได้ แต่บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 225 ล้านบาท และชำระครบแล้ว ทั้งนี้ การที่บริษัทฯ มีอัตราการเร่งเปิดสาขาได้เร็วหากเป็นไปตามแผนภายในเพียงปีเดียว เนื่องจากมองว่า ตลาดร้านกาแฟในประทศไทยยังมีศักยภาพและมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการเข้ามามากมายไม่ขาดสายทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์ต่างประเทศ แต่ในช่วงหลังพบว่าแบรนด์ที่เป็นเชนต่างประเทศเข้ามาในไทยน้อยมาก ซึ่งหากมองแบรนด์ใหญ่ในตลาดไทยก็พบว่ามีมูลค่าตลาดและรายได้เพิ่มมากขึ้นตลอดช่วงปี พ.ศ. 2555-2560 ไม่ว่าจะเป็น สตาร์บัคส์ มีรายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท เป็น 7,000 ล้านบาท และแบรนด์คาเฟ่อเมซอน รายได้ 3,000 กว่าล้านบาท เพิ่มเป็น 10,000 กว่าล้านบาท
ขณะที่ข้อมูลจาก Euromonitor ที่นายสุพัชรอ้างอิงเมื่อครั้งเปิดสาขาแรก ระบุว่าธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทยเติบโตต่อเนื่องมาตลอดกว่า 13% ตั้งแต่ปี 2555-2560 ส่วนธุรกิจกาแฟจะมีมูลค่ากว่า 36,000 ล้านบาท ซึ่งตั้งแต่ช่วงปี 2555-2560 ก็มีการเติบโตที่รวดเร็วมากถึง 22% ส่วนอัตราการดื่มกาแฟของคนไทยต่อคนต่อปีต่อแก้วก็ยังต่ำอยู่มาก เฉลี่ยอยู่ที่ 300 แก้วต่อคนต่อปี ยังต่ำกว่าการดื่มของคนต่างประเทศอีกมาก เช่น คนญี่ปุ่นดื่มกาแฟประมาณ 400 แก้วต่อคนต่อปี ส่วนคนยุโรปดื่มกาแฟเฉลี่ย 600 แก้วต่อคนต่อปี
“แนวโน้มที่กาแฟในไทยเติบโตดีมากแบบนี้ทำให้บริษัทฯ เริ่มพิจารณาศึกษาธุรกิจกาแฟเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา และติดต่อเจรจากับบริษัท Restaurant Brands International (RBI) ของแคนาดา ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ร้านทิม ฮอร์ตันส์ (Tim Hortons) และแบรนด์เบอร์เกอร์คิง (Burger King) และร้านไก่ทอดป๊อปอาย (Popeyes) จนในที่สุดก็ได้รับสิทธิ์ไลเซนส์แฟรนไชส์ร้านทิม ฮอร์ตันส์ ในไทยเพียงรายเดียว” นายสุพัชร กล่าว
สำหรับทิม ฮอร์ตันส์ สาขาแรกที่สามย่านมิตรทาวน์ พบว่าได้รับการตอบรับจากตลาดที่ดีมากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสาขานี้มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน คนเที่ยวศูนย์การค้า ตลอดจนกลุ่มครอบครัว ส่วนวันธรรมดากับวันเสาร์อาทิตย์ก็มีความแตกต่างกัน การปรับเมนูเครื่องดื่ม เมนูของกิน การทำตลาด ก็มีการทำที่ชัดเจนมากขึ้น ถือว่าเราได้ข้อมูลจากสาขาแรกนี้มากพอสมควร
อีกทั้งบริษัทได้มีการปรับเมนูทั้งอาหารและเครื่องดื่มบางส่วน และการบริการ เพื่อให้สอดคล้องกับตลาดและพฤติกรรมของคนไทยด้วย
ทั้งนี้ สาขาแรกที่สามย่านมิตรทาวน์มีพื้นที่ประมาณ 346 ตารางเมตร ใหญ่มาก จุได้ประมาณ 90 ที่นั่ง และสาขาอับดุลราฮิมมีพื้นที่ 170 ตารางเมตร ทั้งนี้ ทิม ฮอร์ตันส์มีร้านหลายรูปแบบในต่างประเทศ ทั้งรูปแบบคีออสก์ รูปแบบในอาคาร ทั้งอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า พลาซา และรูปแบบสแตนด์อะโลน โดยทิม ฮอร์ตันส์มีสาขาทั่วโลกประมาณ 4,850 สาขา อยู่ในแคนาดามากเกือบ 4,000 สาขา โดยที่ไทยเป็นประเทศที่ 14 แต่เป็นประเทศที่ 3 ในเอเชีย รองจากฟิลิปินส์ และจีน