ผู้จัดการรายวัน 360 - พระราม 9 ไก่ย่างเปิดบริการ “เฮียไก่-ดีลิเวอรี” รับมือโควิด-19 พร้อมรับพันธมิตรกระจายไก่สุญญากาศ ผนึกฟูดดีลิเวอรีรายใหญ่ทุกแบรนด์พร้อมผุดทีมม้าเร็วเองด้วย วางแผนขยายสาขามากขึ้นเน้นสแตนด์อะโลน
นายสุเมธ ต่อสหะกุล ผู้ก่อตั้งและเจ้าของร้านพระราม 9 ไก่ย่าง เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญต่อการบริการจัดส่งอาหาร รวมทั้งสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดขณะนี้ จึงส่งผลให้บริการดีลิเวอรีเข้ามามีบทบาทจำเป็นมากขึ้น จึงได้ขยายช่องทางสู่การบริการแบบดีลิเวอรี (Delivery) ด้วยบริการ เฮียไก่ดีลิเวอรี เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าพระราม 9 ไก่ย่าง โดยได้จัดทีมม้าเร็วส่งอาหารเป็นของพระราม 9 ไก่ย่างเอง ตลอดจนใช้บริการการจัดส่งด่วนของแทบทุกค่าย
นอกจากนั้น ยังมีการใช้นวัตกรรมแห่งยุค ไม่ว่าจะเป็น Google Map หรือแม้แต่ Google Business และ อื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ต้องการมาใช้บริการครบทุกช่องทาง การขยายสาขาและบริการดีลิเวอรีจะทำให้พระราม 9 ไก่ย่างมีการเติบโตไปในทางบวกต่อเนื่อง
ล่าสุดภายหลังจากที่ทางภาครัฐบาลมีประกาศปิดสถานบริการหลายอย่าง รวมทั้งธุรกิจร้านอาหารที่ไม่ให้นั่งรับประทานในร้านแต่ให้ซื้อกลับไปรับประทานที่บ้านหรือดีลิเวอรีเท่านั้น ทำให้ฟูดดีลิเวอรีเติบโตมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ พระราม 9 ไก่ย่างได้มีการเตรียมปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ไว้ก่อนแล้วเพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นต่อเนื่องกับบริการ “เฮียไก่-ดีลิเวอรี” ลูกค้าไม่ต้องออกมา เฮียไก่ไปเอง เปิดสายด่วน 0-2318-3939, 08-8847-3939 ถือเป็นโอกาสส่งเสริมสถาบันครอบครัวฝ่าวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นพอดี ทำให้นายสุเมธจึงให้ความสำคัญและเน้นช่องทางนี้มากขึ้น
*** เปิดเฮียไก่ดีลิเวอรี-ไก่สุญญากาศ
สำหรับการพลิกกลยุทธ์ด้านการตลาดที่ผู้คนกังวลไม่อยากเสี่ยงต่อการออกนอกบ้าน นายสุเมธกล่าวว่า “ร้านพระราม 9 ไก่ย่างได้วาง 2 มาตรการรองรับ คือ การบริการแคมเปญ “เฮียไก่-ดีลิเวอรี” ด้วยการส่งถึงบ้านด้วย 50 เมนู ด้วยสายด่วน 0-2318-3939, 08-8847-3939
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการลงทุนเพื่อเสริมทีมม้าเร็ว “เฮียไก่-ดีลิเวอรี” ที่เป็นทีมส่งด่วนของร้านเอง และจับมือทุกค่ายที่เป็นฟูดดีลิเวอรีแอปฯ ใช้บริการการจัดส่งด่วนให้อาหารถึงบ้านลูกค้าแบบสดๆ รสชาติไม่เปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็น Grab, LINE MAN, Panda Food, LaLaMove เป็นต้น
การรุกครั้งนี้ยังได้พัฒนาสินค้าในรูปแบบ “ไก่สุญญากาศ” โดย “ไก่สุญญากาศ” นี้จะยังคงรสชาติเอกลักษณ์ไก่ย่างพระราม 9 เหมือนในร้านแต่บรรจุในแพกเกจพิเศษด้วยระบบสุญญากาศ และแช่เย็น มีอายุการเก็บได้นานถึง 6 เดือน สะดวกสบายแค่นำไปอุ่นในหม้ออบ หรือเข้าไมโครเวฟ รวมทั้งที่ผ่านมาได้รับรางวัล Michelin BIB Gourmand-รางวัลบิบกูร์มองด์หน้าใหม่ประจำปี 2020 ซึ่งเป็นรางวัลที่ผู้ตรวจมิชลินจะมอบแก่ร้านที่เสิร์ฟอาหารคุณภาพดีในราคาย่อมเยาและคุ้มค่า
อย่างไรก็ตาม เพื่อการขยายตัวที่รวดเร็ว จึงเปิดรับผู้สนใจในลักษณะของการเป็นเครือข่ายร้านค้าที่รับไก่ย่างสุญญากาศปรุงสำเร็จ สูตรพระราม 9 ไก่ย่าง ไปจำหน่าย ไม่จำกัดว่าจะเป็นร้านอาหาร หรือคนรับไปขายทั่วไป ด้วยเงื่อนไขง่ายๆ เพียงรับจำนวนขั้นต่ำ 50 ตัวสำหรับออเดอร์แรก ซึ่งจะสร้างผลกำไรให้ประมาณ 40-60% โดยที่สามารถตั้งราคาเองได้ตามศักยภาพของทำเล นอกจากนั้นผู้ค้ารายใดต้องการให้พระราม 9 ไก่ย่างผลิตเพื่อไปใส่แบรนด์ตัวเอง ทางพระราม 9 ไก่ย่างก็เปิดรับผลิตให้ด้วย
** รุกขยายสาขาแบบสแตนด์อะโลน
สำหรับแผนการขยายสาขานั้น นายสุเมธกล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะมีแผนการขยายสาขาของร้านพระราม 9 ไก่ย่างเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่ช่วงที่ผ่านมาได้มีการเตรียมพร้อมโดยเฉพาะในเรื่องของการวางระบบต่างๆ เรื่องแบ็กออฟฟิศ การบริหารจัดการ บุคลากรต่างๆ รองรับ โดยวางเป้าหมายการขยายสาขาใน 3 ปีนี้ (2563-2565) รวมสาขาปัจจุบัน จะทำให้คาดว่าในปี 2565 จะมีสาขาเปิดรวมเป็นไม่ต่ำกว่า 10 สาขา
ทั้งนี้ เป้าหมายหลักของทำเลที่พิจารณาเปิดสาขา คือ โซนตะวันออกของกรุงเทพฯ ที่ยังพอมีพื้นที่ขนาดใหญ่เปิดได้ และเป็นพื้นที่ที่มีความเจริญมีหมู่บ้านเกิดขึ้นมากมาย รวมถึงพื้นที่ย่านสมุทรปราการด้วย โดยแนวโน้มการเปิดร้านจากนี้ไปจะเน้นในรูปแบบที่เป็นสแตนด์อะโลนมากขึ้นด้วย เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวยังไม่ค่อยมีศูนย์การค้าใหม่ๆ เปิดเพิ่มจึงทำให้ต้องเปิดแบบสแตนด์อะโลน อีกทั้งสแตนด์อะโลนจะต้องใช้พื้นที่มากกว่าการเปิดในศูนย์การค้าและมีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการและเปิดปิดได้ดีกว่า
ล่าสุดได้ลงทุนขยายกิจการเปิดร้านพระราม 9 ไก่ย่างเพิ่มอีก 1 สาขา เป็นสาขาที่ 5 ตั้งอยู่ที่เทสโก้โลตัส สาขาเลียบด่วน รามอินทรา เปิดบริการแล้วเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา โดยใช้งบลงทุนไปใกล้เคียงกับสาขาเดิมๆ ที่เปิดในศูนย์การค้าก่อนหน้านี้ โดยเฉลี่ยแล้วสาขาที่เปิดในศูนย์การค้าจะลงทุนประมาณ 5-10 ล้านบาทต่อสาขา
ปัจจุบันเปิดบริการแล้วทั้งหมด 5 สาขา ประกอบด้วย สาขาที่ 1 สาขาต้นตำนาน พระราม 9 ปากซอย 39 ขาออกไปทางถนนศรีนครินทร์ - สาขาที่ 2 สาขาเดอะแจ๊ส รามอินทรา ลาดปลาเค้า - สาขาที่ 3 สาขาเดอะพรอเมนาด (ชั้น 3) รามอินทรา (ติดแฟชั่น ไอส์แลนด์) - สาขาที่ 4 สาขาเดอะมาร์เก็ต ชั้น 3 (ติดบิ๊กซี ราชดำริ) - สาขาที่ 5 สาขาโลตัส เลียบด่วน รามอินทรา
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว (2562) ได้ทำการย้ายสาขาแรกดั้งเดิมที่พระราม 9 ซอย 39 มาตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามในซอยเดิม โดยลงทุนสร้างใหม่ทั้งหมดมากกว่า 10-20 ล้านบาทขึ้นไป มีพื้นที่ใหญ่ขึ้น สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 600 ที่นั่ง มีห้อง VIP จัดเลี้ยง 5 ห้อง เพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วยพื้นที่จอดรถใต้ดินได้กว่า 100 คัน โดยการสร้างใหม่ครั้งนี้ได้จัดเตรียมทางลาดสำหรับผู้มีปัญหาทางร่างกาย ด้วยการทำทางลาดพิเศษ อารยสถาปัตย์ที่เป็น Friendly Design พร้อมที่นั่งที่ใช้ไฟฟ้าไฮดรอลิกเลื่อนจากพื้นชั้นล่าง ขึ้นชั้นบนบริเวณบริการลูกค้า
นายสุเมธกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเก็บตัวเลขลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการอย่างเป็นระบบ แต่สามารถประมาณคร่าวๆ ได้จากจำนวนที่นั่ง โดยเฉพาะสาขาแรกที่พระราม 9 ลูกค้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 1,000 คน รวมทั้งปีที่มาใช้บริการมากกว่า 3.5 แสนคน มียอดขายเฉลี่ยต่อปี 25-30 ล้านบาท เฉพาะสาขาเดียว ยังไม่นับรวมสาขาอื่นอีก
สำหรับเมนูอาหารจะมีหลากหลายมากกว่า 50 เมนู ซึ่งรวมถึงอาหารเวียดนามด้วย เช่น ส้มตำไทยถั่วกระจก คอหมูย่าง ต้มแซ่บ แหนมเนือง นอกจากไก่ย่าง ส้มตำ ยังมีอาหารเวียดนามและเมนูอื่นๆ ให้เลือกอีกกว่า 50 เมนู
การเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญและการขยายตัวครั้งใหญ่ของพระราม 9 ไก่ย่าง ก็ไม่ผิดนัก
