เอเจนซีส์ - ผู้ประท้วงไม่ถึงร้อยคนยังปักหลักอยู่ในมหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิค ท้าทายคำเตือนของตำรวจปราบจลาจลที่ล้อมอยู่เป็นวันที่ 4 เมื่อวันพุธ (20 พ.ย.) ขณะที่สำนักงานสิทธิมนุษยชนยูเอ็นเรียกร้องให้ฮ่องกงแก้ปัญหาอย่างสันติ และวุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนข้อเรียกร้องของม็อบฮ่องกง ซึ่งถูกจีนออกมาประณามทันทีและเรียกร้องให้เลิกแทรกแซงกิจการภายในของตน
ศูนย์กลางความรุนแรงในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ดำเนินมาเกือบ 6 เดือน ย้ายไปยังมหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิค (โพลียู) ที่ผู้ประท้วงหัวรุนแรงไม่ถึงร้อยคนยังต่อสู้กับตำรวจปราบจลาจลด้วยระเบิดขวด ก้อนอิฐ และธนู
การเผชิญหน้าครั้งนี้ถือว่า รุนแรงที่สุดนับจากการประท้วงเริ่มต้นขึ้นเมื่อเกือบ 6 เดือนที่แล้วจากความไม่พอใจที่รัฐบาลเร่งรัดผลักดันร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทำให้ประชาชนนับล้านออกไปชุมนุมบนท้องถนนและขยายข้อเรียกร้องเป็นการเลือกตั้งอย่างเสรี รวมทั้งการสอบสวนการใช้ความรุนแรงของตำรวจ ซึ่งถูกปฏิเสธทั้งจากปักกิ่งและรัฐบาลฮ่องกง
ผู้ประท้วงในโพลียูเผยว่า ยังมีสมาชิกเหลืออยู่ราว 50 คน หลังจากผู้ประท้วงเกือบ 900 คนยอมมอบตัวตั้งแต่คืนวันอังคาร (19) และตำรวจเตือนว่า อาจใช้กระสุนจริงกับผู้ที่ใช้ความรุนแรง
หนุ่มสาวที่เหนื่อยล้าเหล่านั้นบางส่วนตั้งหน้าตั้งตาเตรียมระเบิดขวด ขณะที่คนอื่นๆ นอนพักในโรงยิม นอกจากนี้ยังมีการทำสัญลักษณ์ขอความช่วยเหลือ “SOS” ขนาดใหญ่บนสนามเพื่อให้มองเห็นจากมุมสูง
ผู้ประท้วงวัย 20 ปีคนหนึ่งบอกว่า อาหารและน้ำใกล้หมด และพวกเขาอาจตายอยู่ในโพลียู เนื่องจากตำรวจล้อมไว้ไม่ให้ออก
วันอังคารที่ผ่านมา แคร์รี่ ลัม ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เรียกร้องให้ผู้ประท้วงยอมมอบตัว โดยให้สัญญาว่า เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีจะไม่ถูกจับกุม นอกเหนือจากนั้นจะถูกตั้งข้อหาก่อจลาจลซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี
ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีรายงานว่า ช่วงเช้ามืดวันพุธ ตำรวจไล่ตามและจับกุมนักศึกษากว่า 10 คนที่พยายามหนีออกจากมหาวิทยาลัย
รายงานระบุว่า ผู้ประท้วงบางคนพยายามหนีด้วยการไต่เชือกลงไปหามอเตอร์ไซค์ที่จอดรออยู่ บางคนมุดท่อระบายน้ำซึ่งทั้งสกปรกและอันตรายเนื่องจากระดับน้ำช่วงกลางคืนมักขึ้นสูง นอกจากนั้นยังมีงู ที่สำคัญตำรวจดับเพลิงได้เข้าไปปิดทางเข้าออกระบบท่อระบายน้ำใต้ที่จอดรถใต้ดินแล้ว
ทางด้าน รูเพิร์ต โคลวิลล์ โฆษกสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ในเจนีวา แถลงว่า จับตาสถานการณ์ในโพลียูด้วยความกังวลอย่างยิ่ง แต่ขณะเดียวกันก็ประณามการใช้ความรุนแรงของผู้ประท้วงบางส่วน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลฮ่องกงหาทางออกอย่างสันติ
ทั้งนี้ ในช่วงหลังๆ มานี้ ผู้ประท้วงได้หันไปใช้ยุทธวิธีการแยกย้ายโจมตี จนกระทั่งสร้างความเสียหายทั่วฮ่องกงเป็นเวลานานกว่าสัปดาห์ และส่งผลให้เครือข่ายขนส่งสาธารณะหยุดชะงัก โรงเรียน ตลอดจนถึงห้างร้านมากมายต้องปิดทำการ
สำนักงานการศึกษาฮ่องกงเพิ่งประกาศให้โรงเรียนประถมและมัธยมเปิดการเรียนการสอนอีกครั้งในวันพุธ แต่โรงเรียนอนุบาลยังคงปิดต่อเนื่องมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
จีนได้ประณามผู้ประท้วงก่อความรุนแรงว่า เป็นอาชญากร และปฏิเสธเสียงวิจารณ์จากต่างชาติ
กระนั้น เมื่อวันอังคาร วุฒิสภาสหรัฐฯ อนุมัติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ผ่านกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกงที่กำหนดให้รัฐบาลอเมริกันต้องพิจารณาทบทวนสถานะพิเศษทางการค้าฮ่องกงทุกปี รวมถึงห้ามขายแก๊สน้ำตา กระสุนยาง และอาวุธปราบจลาจลอื่นๆ ให้ฮ่องกง
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ตอบโต้ในวันพุธ โดยประณามอเมริกาและเรียกร้องให้เลิกแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกงและจีน รวมทั้งขู่ใช้มาตรการตอบโต้สถานหนัก หากอเมริกาบังคับใช้ร่างกฎหมายดังกล่าว นอกจากนั้นยังเรียกวิลเลียม ไคลน์ อุปทูตอเมริกัน เข้าพบเพื่อแสดงความไม่พอใจในเรื่องนี้
ขณะที่รัฐบาลฮ่องกงก็แสดงความเสียใจกับความเคลื่อนไหวของวุฒิสภาสหรัฐฯ
วันเดียวกันนั้น แมทธิว เฉิง หัวหน้าคณะรัฐมนตรีฮ่องกง เตือนว่า หากสถานการณ์ยังคงรุนแรงอยู่ ก็อาจทำลายโอกาสในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นในวันอาทิตย์ที่จะถึง (24) ซึ่งมีการคาดหมายกันว่า ผู้สมัครที่สนับสนุนปักกิ่งอาจพ่ายแพ้