xs
xsm
sm
md
lg

“มิสกวาน เฮลธ์” เผยรักษาสุขภาพองค์รวมพุ่ง 4 เท่า หลังโควิด-19 ระบาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



MHG ชี้เทรนด์สุขภาพแบบองค์รวมยังโต

มิสกวาน เฮลธ์ กรุ๊ป หรือ MHG ชี้เทรนด์สุขภาพแบบองค์รวมในไทยยังมีโอกาสเติบโตได้ท่ามกลางกระแสตื่นตัวเรื่องสุขภาพจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 และไวรัส COVID-19 มั่นใจหลังเหตุการณ์กลับคืนสู่ปกติ ผู้คนจะตระหนักและหันมาใส่ใจสุขภาพอย่างยั่งยืนกันมากขึ้น

ธุรกิจสปาและ Wellness เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงของไทย และเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจ ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์โดย SCB Economic Intelligence Center (EIC) ซึ่งอิงข้อมูลจาก Global Wellness Institute (GWI) และ Euromonitor International พบว่ามีมูลค่าตลาดสูงถึงประมาณ 3.2 แสนล้านบาท โดยตลาดในไทยมีความน่าสนใจ รองจากจีน ญี่ปุ่น และอินเดีย

ทางด้าน Global Wellness Institute (GWI) ได้ออกมารายงานว่า การท่องเที่ยวในแบบ Wellness Tourism มีแนวโน้มเติบโตจาก 19 ล้านล้านบาทในปี 2015 เป็น 27 ล้านล้านบาทในปี 2020 โดยอุตสาหกรรมนี้มีการให้บริการใน 2 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ การบริการดูแลสุขภาพจากภายใน เช่น บริการด้านให้คำปรึกษาในเชิงป้องกันเฉพาะบุคคล และการบริการดูแลสุขภาพจากภายนอก เช่น สปา ความงาม และการชะลอวัย


เทรนด์การรักษาแนวใหม่
นายเดวิด บอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสกวาน เฮลธ์ กรุ๊ป จำกัด หรือ (MHG) ศูนย์สุขภาพแบบองค์รวม ที่วิเคราะห์หาความเสี่ยงโรคร้าย และฟื้นฟูสุขภาพ หรือรักษาแบบสมุทัยเวชศาสตร์ ภายใต้ชื่อ มิสกวาน (Miskawann) เปิดเผยถึงแนวทางการให้บริการในแบบ MHG ที่เรียกว่า สมุทัยเวชศาสตร์ ซึ่งเป็นกระบวนการออกแบบแผนการรักษาโรคเรื้อรังอย่างเป็นระบบ ด้วยข้อมูลสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์ เริ่มด้วยการค้นคว้าหาสาเหตุอันนำมาสู่การเกิดโรคเป็นรายบุคคล โดยการวิเคราะห์จากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการวางแผนการรักษาโรคจากต้นตอ และวางแผนการฟื้นฟูอย่างถูกวิธี เพื่อให้การรักษาออกมามีประสิทธิภาพต่อผู้ที่เข้ารับการรักษา

“ผู้เข้ารับการตรวจร่างกายอย่างครบวงจรจะได้รับการออกแบบให้ได้รับอาหารเสริมที่ทำจากธรรมชาติ 100% เพื่อให้ตรงต่อความต้องการของแต่ละบุคคล ซึ่งวิธีนี้จะทำให้การดูแลสุขภาพแบบธรรมชาติสามารถตอบโจทย์ความต้องการในแบบเฉพาะบุคคลได้ เช่น Chelation therapy, Multi vitamin and mineral IV infusion, Ozone therapy, Vicorder screening เป็นต้น” โดยหัวใจหลักคือ การรักษาด้วยธรรมชาติบำบัด และการวินิจฉัยที่ทันสมัยเพื่อสร้างแผนการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ


กระแสตอบรับธรรมชาติบำบัด
แนวทางการรักษาในแบบธรรมชาติบำบัดเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นจากทั่วโลก รวมถึงในไทย ทั้งนี้ นายเดวิดชี้ว่านั่นเป็นเพราะหัวใจหลักของการดูแลสุขภาพในแบบสมุทัยเวชศาสตร์ มีจุดเด่นอยู่ที่การเข้าใจถึงความซับซ้อนของร่างกายมนุษย์ ว่าประกอบไปด้วยระบบทางชีวภาพต่างๆ ด้วยการนำหลักการ Holistic ผสมผสานกับ Biological Based มาใช้ในการดูแลสุขภาพร่างกาย นอกจากจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพายาหรือสารเคมีในการรักษา
“การรักษาด้วยธรรมชาติบำบัด และการวินิจฉัยที่ทันสมัยนี้ นับว่าเป็นการรักษาที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างจากผู้ที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นดาราฮอลลีวูด นักธุรกิจชื่อดัง ทีมฟุตบอลอาชีพ นักเทนนิสมืออาชีพ ผู้สร้างภาพยนตร์”

แผนพัฒนาธุรกิจในไทย
ด้านนายวฤธ ใต้ฟ้ายงวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการประเทศไทย บริษัท มิสกวาน เฮลธ์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ลงทุน 300 ล้านบาทเพื่อขยายศูนย์ดูแลสุขภาพมิสกวาน ครบทั้ง 5 สาขา โดย 2 สาขาในไทย ประกอบด้วย กรุงเทพฯ ที่อาคารเกษร ทาวเวอร์ชั้น 11 และเกาะสมุย สำหรับเกาะสมุย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาขาที่ให้บริการร่วมกับทางรีสอร์ต ประกอบด้วย บีชฟรอนต์วิลลา 11 หลัง ตั้งอยู่บนหาดทรายสีขาว การออกแบบที่เน้นความเป็นส่วนตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงกิจกรรมต่างๆ เช่น คลาสดำน้ำดูปลา โยคะริมชายหาด เป็นต้น เพื่อให้ผู้ที่รับการรักษาสามารถเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและได้เที่ยวพักผ่อนไปพร้อมกัน

ส่วนในต่างประเทศนอกจากในเวียนนา ประเทศออสเตรีย และฮ่องกงแล้ว บริษัทยังได้ซื้อกิจการคลินิกที่ลุดวิคส์เบิร์ก ประเทศเยอรมนี จากโจฮานเนส เวสต์โซเลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาแนวใหม่ ทั้งยังเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น และหัวหน้าผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของมิสกวาน


ลูกค้าใช้บริการเพิ่ม 3-4 เท่าช่วงระบาดโควิด-19

สำหรับมิสกวานเริ่มเปิดให้บริการในไทยมาตั้งแต่ปี 2561 โดยที่ผ่านมาฐานลูกค้า 80% เป็นต่างชาติ ทั้ง ฮ่องกง สิงคโปร์ ออสเตรเลีย แคนาดา จีน เวียดนาม พม่า ฟินแลนด์ และอังกฤษ ซึ่งส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการรักษาในรูปแบบของเวสต์โซเลย์ หรือสมุทัยเวชศาสตร์ อยู่แล้ว ขณะที่ฐานลูกค้าอีก 20% เป็นคนไทย แต่นับตั้งแต่สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ทำให้กลุ่มคนไทยตื่นตัวในการเข้ามาใช้บริการมิสกวานเพิ่มขึ้นถึง 3-4 เท่าตัว โดยรูปแบบการรับบริการในลักษณะสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันต่างชาติไม่สามารถเดินทางมาประเทศไทยได้ชั่วคราวเนื่องจากการระบาดของโรคดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันสัดส่วนของผู้เข้ามาใช้บริการเปลี่ยนเป็นคนไทย 40% จากจำนวนลูกค้าทั้งหมด 400 คน

ทั้งนี้ บริษัทได้มีการปรับแผนระยะสั้น ในช่วงที่ลูกค้าต่างชาติไม่สามารถเดินทางมาใช้บริการได้ โดยบริษัทจะใช้โอกาสนี้ในการให้ความรู้คนไทยเพื่อให้ตระหนักในการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ไม่เฉพาะในช่วงที่เกิดโรคระบาดโควิด-19 แต่มลภาวะเป็นพิษและอาหารที่ไม่สะอาด ถ้าสุขภาพร่างกายแข็งแรงจะต้านโรคได้ระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ของมิสกวานที่เน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันก่อนที่จะเกิดโรค


เสริมภูมิคุ้มกันสู้ COVID-19
ในความเห็นส่วนตัวของนายวฤธ เกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ที่เกิดขึ้น แนะว่าเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังมาก โดยพื้นฐานแล้วหากเรามีสภาพร่างกายและระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงนั้นเป็นเรื่องที่ดี โดยทุกคนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สมดุลและแข็งแรงได้ด้วยวิธีง่ายๆ เช่น การเสริมสร้างวิตามินซี (Vitamin C), วิตามินดี 3 (Vitamin D-3) และโคคูมิน (Curcumin) หรือสารสกัดจากขมิ้นเพื่อช่วยลดการอักเสบของร่างกาย


ทั้งนี้ การรักษา ควรเน้นที่การเสริมสร้างมากกว่าการป้องกัน การดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอและรับรู้ว่าร่างกายขาดสิ่งใด จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันตัวเอง และยังสามารถป้องกันการเจ็บป่วยจากการที่ร่างกายได้รับสิ่งแปลกปลอมได้ เพราะที่สุดแล้วการดูแลและเอาใจใส่ภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงอยู่เสมอเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อการมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว




กำลังโหลดความคิดเห็น