ผู้จัดการรายวัน360 – ไทยโคโคนัท เดินเกมรุก ดันเป้ารายได้แบรนด์ตัวเอง 30% ลดเสี่ยงพึ่งพาตลาดตปท. ปั้นแบรนด์โคโค่บุรี600 ล้านบาท ลงทุน 200 ล้านบาทเพิ่มผลิตสินค้าที่ทำจากมะพร้าวทุกรูปแบบ รับออเดอร์พุ่งจากโควิด-19
ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โค
โคนัท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯวางเป้าหมายภายใน 3 ปีจากนี้ (2563-2565) จะสร้างสัดส่วนรายได้ที่มาจากแบรนด์ของบริษัทฯเองให้ได้ประมาณ 30% จากปัจจุบันมีประมาณ 10% เท่านั้น โดยรายได้หลักมาจากการรับจ้างผลิตหรือโออีเอ็มให้กับแบรนด์อื่นและส่งออกไปยังต่างประเทศเป็นหลัก โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากมะพร้าวเป็นหลัก
สาเหตุหนึ่งเพราะต้องการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดต่างประเทศ แม้ว่าบริษัทฯจะเป็นผู้ส่งออกกะทิอันดับ1ในทวีปยุโรปและเป็นอันดับที่2ของโลกก็ตาม
ล่าสุดได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่คือ โคโค่ บุรี เป็นน้ำมะพร้าวพร้อมดื่มราคา 25 บาท เพื่อเป็นการขยายฐานตลาดและต่อยอดจากผลิตภัณฑ์มะพร้าว โดยพิจารณาจากความแข็งแกร่งของบริษัทที่อยู่ในวงการมะพร้าวมานานกว่า 11 ปี อีกทั้งมูลค่าตลาดรวมเครื่องดื่มน้ำมะพร้าวที่มีรวม 900 ล้านบาท แยกเป็น กลุ่มพรีเมียมราคา 25 บาทต่อขวด กว่า 600 ล้านบาท หรือ 66% และกลุ่มล่างราคา 10 กว่าบาท อีก 300 ล้านบาท หรือ 34% ซึ่งอดีตเคยมากกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ก็ลดลงมาเล็กน้อย โดยมีรายใหญ่ผู้นำตลาดมีแชร์ 30% รองลงมาอีก 2 รายรายละ 10%
โดยบริษัทว่าจ้างอิชิตันกรุ๊ปผลิตให้เพราะมีไลน์ผลิตแบบนี้อยู่แล้ว ส่วนบริษัทฯไม่มีไลน์ผลิตขวดแบบนี้ ตั้งเป้าหมายยอดขายปีแรกไวที่ 100 ล้านบาท หรือมีแชร์ประมาณ 5% ในตลาดพรีเมียม วางงบตลาดไว้ที่ 50 ล้านบาทในไทยและ 20 ล้านบาทในต่างประเทศ ทั้งโฆษณา กิจกรรม จัดโปรโมชั่น พร้อมทำตลาดส่งออกด้วยเช่นกัน และกลางปีนี้จะมีสินค้าใหม่แบรนด์โคโค่บุรีวางตลาดอีก ตั้งเป้าโตปีละ 10%
ปี2563นี้จะมีการลงทุนรวม 200 ล้านบาท เพื่อเพ่มกำลังการผลิตอีก 50% รองรับความต้องการของตลาดที่ขณะนี้มาทั้งในไทยและต่างประเทศ อันเนื่องมาจากโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการตลาดสูงขึ้น ขณะนี้ก็มีการเพิ่มกำลังการผลิตอีก 30% แล้วด้วย จากกำลังผลิตทั้งหมดทุกรูปแบบ กะทิ 60% น้ำมะพร้าว 20% มะพร้าวสดเป็นลูก 5% สแน็กมะพร้าว 5% ทองม้วนมะพร้าว 7.5% และ น้ำมันมะพร้าวและเมคอัพ 2.5% จากกำลังผลิต 7,000 ตันต่อเดือน โดยมีแผนที่จะขยายสินค้าไปยังกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มแนวธัญพืชพอีกด้วย
ปัจจุบันบริษัทฯมีตลาดส่งออกหลักอยู่ที่ ยุโรปกับอเมริกา และอีกกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ในโอเชียเนีย ตะวันออกกลาง และเอเซีย ซึ่งตลาดต่างประเทศมีทั้งออกแบรนด์ ไทยโคโค่ กับแบรนด์โคโค่บุรี มะพร้าวน้ำหอมติดจุก เป็นต้น และการรับจ้างผลิต รวมกว่า 157,000 ต่อปี ซึ่งขณะนี้เริ่มที่จะขยายตลาดจีนมากขึ้น เพราะคนจีนบชอดื่มน้ำมะพราวมาก
ลูกค้าหลักๆต่างประเทศเช่น โคคาโคลา ยูนิลีเวอร์ เนสท์เล่ เทสโก้ วอลล์มาร์ท ดาน่อน เมโทร เป็นต้น
ดร.วรวัฒน์ กล่าวว่า ในปี2563นี้ วางเป้าหมายจะมีรายได้ 3,500 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่รายได้รวม 2,400 ล้านบาท เติบโต 10% แบ่งเป็นในประเทศ 226 ล้านบาท ต่างประเทศ 2,174 ล้านบาท
ด้านนางสาวปวีณ์นุช จำปาถิ่น ฝ่ายการตลาดกลยุทธ์ในประเทศ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเตรียมใช้งบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท สำหรับสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ผ่าน กลยุทธ์การตลาดแบบ 360 องศา ทั้งการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ในช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมทั้งการเปิดตัวแคมเปญโฆษณา “โคโค่บุรี มะพร้าวน้ำหอมตัวจริง หอมจริงทั้งน้ำทั้งเนื้อ” ผ่านภาพยนตร์โฆษณาที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของ “โคโค่บุรี” ผ่าน “น้ำหอม” ลูกมะพร้าวที่ออกเดินทางตามหาครอบครัวที่หายไป จนมาพบว่า “ครอบครัวน้ำหอม” อยู่ในขวด COCOBURI ที่ไม่ว่าจะถูกเปลี่ยนไปในรูปแบบไหนก็ยังคงเป็นมะพร้าวน้ำหอมที่หอมจริงทั้งน้ำทั้งเนื้อ โดยภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้จะเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการตลาดต่างๆ อาทิ การทำคาราวานแจกสินค้าชงชิม ที่ สถานีรถไฟฟ้า ตั้งแต่วันที่ 22-31 มีนาคม 2563 และจะมีการจัดโปรโมชั่นพิเศษร่วมกับร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศอีกด้วย
สำหรับ “โคโค่บุรี” มะพร้าวน้ำหอมผสมเนื้อมะพร้าวอ่อน 100% บรรจุในขวด ขนาด 350 มิลลิลิตร ราคา 25 บาท พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นกว่า 10,000 สาขาทั่วประเทศ และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
จุดเด่นของไทย โคโคนัท อยู่ที่การคัดสรรมะพร้าวน้ำหอมคุณภาพดี จากจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งปลูกมะพร้าวน้ำหอมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้รับรองตามมาตรฐาน GMP น้ำมะพร้าวน้ำหอมที่ได้จึงสะอาด บริสุทธิ์ ไม่มีสารปนเปื้อน
นอกจากนี้ “โคโค่บุรี” ยังเพิ่มความพิเศษยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มเนื้อมะพร้าวอ่อน ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสรสชาติที่หอม อร่อย และเคี้ยวเพลิน เหมือนดื่มมะพร้าวสดๆจากลูกเลยทีเดียว “โคโค่บุรี” มะพร้าวน้ำหอมผสมเนื้อมะพร้าวอ่อน 100% จึงกลายเป็นเครื่องดื่มจากธรรมชาติที่เหมาะกับผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัย สามารถเลือกดื่มได้ทุกช่วงเวลา ทำให้เชื่อมั่นว่า “โคโค่บุรี” จะมีรสชาติถูกปากคนไทย และได้รับความนิยมอย่างสูง โดยในปีแรกบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขาย 100 ล้านบาท