กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศปรับกลยุทธ์ทำงานรับมือโควิด-19 ใช้ระบบออนไลน์จัดอบรม สัมมนา และการเจรจาธุรกิจ นำร่องอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ พ.ค.นี้ เผยการจัดงานแสดงสินค้า TAPA 2020 และ THAIFEX-Anuga Asia เลื่อนจัดเป็นเดือน ก.ย.แทน ระบุยังได้ปรับโฉมห้องเทเลคอนเฟอเรนซ์ รองรับการเจรจาธุรกิจที่จะมีมากขึ้นด้วย
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ปรับกลยุทธ์ และกระบวนการทำงานจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยในด้านการจัดกิจกรรมอบรม สัมมนา จากเดิมที่การจัดอบรมจะให้ผู้ประกอบการ ประชาชน มารวมตัวกันในสถานที่ฝึกอบรมจริง ได้ปรับเปลี่ยนเป็นการอบรมผ่านทางออนไลน์ มีการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live ในช่องทางต่างๆ ของกรมฯ เช่น เพจของสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการยุคใหม่ โดยมีผลการดำเนินการที่ประสบความสำเร็จ เช่น วันที่ 4 มี.ค. 2563 สัมมนา “ครบเครื่องเรื่องการค้าออนไลน์ by NEA ณ จังหวัดตรัง” และวันที่ 6 มี.ค. 2563 สัมมนา “ติวเข้ม...เจาะตลาด สปป.ลาว” เป็นต้น อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมผ่านช่องทาง Webinar ด้วยการเพิ่มระบบ Live Chat ให้สามารถมอนิเตอร์คำถามและข้อสงสัยตรงจากผู้เข้าชมสัมมนาได้แบบเรียลไทม์
ทั้งนี้ ในส่วนของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ก็มีการจัดสัมมนาเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เช่น วันที่ 12 มี.ค. 2563 สคต.มุมไบ จัดเสวนาออนไลน์สายตรงอินเดีย นำเสนอเรื่องราวธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ในแดนภารตะและโอกาสของผู้ประกอบการไทย เป็นต้น
นายสมเด็จกล่าวว่า กรมฯ ยังได้ปรับแผนการดำเนินงานให้เหมาะกับสถานการณ์ เช่น การจัดงานแสดงสินค้าไทยในต่างประเทศ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในต่างประเทศ การจัดคณะผู้แทนการค้าและสร้างเครือข่าย รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ โดยได้ทำการปรับแผนจัดกิจกรรมโดยใช้วิธีการจัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบ Online Exhibition แทน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เพิ่มการส่งออกในรูปแบบใหม่ๆ สามารถรองรับปัญหาการไม่สามารถเดินทางมาพบกันแบบ Face to Face ได้
กรมฯ ได้นำร่องโครงการงานแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ (Film /Animation/Digital Content) และจับคู่เจรจาธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ (Multimedia Online Virtual Exhibition : MOVE) โดยรูปแบบการทำงาน คือ จัดทำเว็บไซต์งานแสดงอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยให้เป็นสื่อกลางในการเจรจาการค้าผ่านสื่อออนไลน์ระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการต่างชาติ กำหนดกิจกรรมเจรจาธุรกิจในรูปแบบออนไลน์เสมือนมาในงานแสดงสินค้า โดยจะจัดระยะเวลา 3 วัน ในช่วงเดือน พ.ค. 2563 และจะขยายไปสู่สินค้าประเภทอื่นๆ ในช่วงตั้งแต่เดือน พ.ค.-ส.ค. 2563 ด้วย
ส่วนงานแสดงสินค้าชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์และอุปกรณ์ตกแต่ง ปี 2563 หรือ TAPA 2020 ได้เลื่อนวันจัดไปเป็นวันที่ 3-6 ก.ย. 2563 ณ ไบเทค บางนา และงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX-Anuga Asia ได้เลื่อนไปจัดวันที่ 22-26 ก.ย. 2563 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สำหรับการเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ได้ปรับรูปแบบเป็น Online Business Matching โดยการประชุมผ่าน VDO Conference ซึ่งกรมฯ ได้ทดลองใช้แล้วในกิจกรรมจับคู่ธุรกิจสินค้าผลไม้สดและผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา และได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ และกำลังมีแผนปรับปรุงห้องเทเลคอนเฟอเรนซ์ เพื่อรองรับการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจตามรายสินค้าและตลาดต่อไป
นอกจากนี้ เพื่อให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออก ผู้ประกอบการ และประชาชนที่สนใจติดตามสถานการณ์ทางการค้าและอัปเดตข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ของกรมฯ www.ditp.go.th กรมฯ ได้จัดทำแบนเนอร์ “ศูนย์ข้อมูลสถานการณ์ทางการค้าจากผลกระทบโควิด-19” เพื่อรวบรวมสถานการณ์ทางการค้าจาก สคต.ทั่วโลก และได้มีการรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ทางการค้าจาก สคต.ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อรู้เท่าทันสถานการณ์ และสามารถใช้เป็นข้อมูลในการปรับตัวและหาโอกาสทางการค้าจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น