xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ต้องกักตุน! ภาคการผลิตออกโรงยันสินค้าอุปโภค-บริโภคมีเหลือเฟือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ส.อ.ท.ในฐานะที่มีสมาชิกในภาคการผลิตจำนวนมากแนะประชาชนอย่ากักตุนสินค้าจนเกินความจำเป็น ยืนยันไทยเป็นผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของโลกมีสินค้ามากพอ ลั่นกำลังผลิตปัจจุบันเดินแค่ 60% เท่านั้น เตรียมควงบริษัทยักษ์ใหญ่มาแถลงข่าวสร้างความเชื่อมั่น 18 มี.ค.นี้

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากการออกมากักตุนสินค้าอุปโภคและบริโภคของประชาชนเพราะเกรงผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 นั้นต้องการให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าประเทศไทยมีสินค้าอุปโภค-บริโภคเพียงพออย่างแน่นอน เนื่องจากไทยเป็นผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของโลก จึงไม่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนกจนเกินความจำเป็น

“ขณะที่ระบบขนส่ง (โลจิสติกส์) ยังสามารถใช้ได้ปกติ การขนส่งสินค้า ปริมาณสินค้าจะไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกจนเกินไป ไม่เช่นนั้นจะซื้อสินค้าเกินความจำเป็น ประกอบกับเศรษฐกิจไม่ค่อยดีด้วย จึงอยากให้ประชาชนใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชน วันที่ 18 มี.ค. กลุ่ม ส.อ.ท.จะนำสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการสินค้าอุปโภค-บริโภค เช่น เครือสหพัฒน์ รวมถึงผู้ประกอบการกลุ่มเอทานอล และกลุ่มบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการผลิตเจลแอลกอฮอล์ออกมาเปิดแถลงข่าวเรียกความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคอีกครั้ง” นายสุพันธุ์กล่าว

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ส.อ.ท. กล่าวว่า ไทยเป็นผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของโลก ทั้งในด้านการส่งออก และการผลิต โดยมีมูลค่าตลาดรวม 3 ล้านล้านบาทต่อปี โดยเป็นการผลิตอาหารที่หมุนเวียนอยู่ในระบบในประเทศทั้งภาคการผลิต ภาคบริการ รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านบาทต่อปี และมีมูลค่าการส่งออกอีกประมาณ 1 ล้านล้านบาทต่อปี และที่ผ่านมาเศรษฐกิจของโลก และเศรษฐกิจไทยชะลอตัว กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารมีกำลังการผลิตไม่ถึง 60% ผู้ประกอบการจึงมีกำลังการผลิตได้อีกมาก


“ผมเชื่อว่าหากสถานการณ์เข้าสู่ระดับ 3 จริง ทางภาครัฐจะมีมาตรการระบบกระจายสินค้าให้ประชาชนได้ ไม่ขาดแคลนแน่นอน อาหารในไทยเหลือเฟือ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผลิตได้วันละ 10 ล้านซอง และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง 15 ล้านซองต่อวัน ไม่อยากให้มีการกักตุนกัน” นายวิศิษฐกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น