“กุลิศ” เกาะติดโควิด-19 ใกล้ชิด หวั่นกระทบโรงไฟฟ้าชุมชนควิกวิน หลังเอกชนกังวลกระทบนำเข้าอุปกรณ์ทำให้ COD ปลายปีนี้ไม่ทัน แต่ยังคงเดินหน้าให้ได้ตามเป้าเดิมก่อน รับหากกระทบจริงอาจเลื่อนไปเป็นกลางปี 64
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเปิดรับฟัง (ร่าง) หลักเกณฑ์เงื่อนไขการพิจารณาคัดเลือกผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการ Quick Win) หรือ โครงการระยะเร่งด่วน 100 เมกะวัตต์ โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) วันนี้ (13 มี.ค.) ว่า กระทรวงพลังงานยังคงเป้าหมายเดิมที่จะให้โครงการควิกวินให้เสร็จภายในเดือน มี.ค. 2563 นี้ และกำหนดให้ผลิตไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ภายในสิ้นปี 2563 ไปก่อน อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอเอกชนที่เห็นว่า COD อาจไม่ทัน เพราะบางรายติดปัญหาการนำเข้าอุปกรณ์เครื่องจักร เพราะสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 นั้น ก็อาจจะพิจารณาให้มีการเลื่อน COD ออกไปเป็นกลางปีได้ แต่ทั้งนี้ จะขอติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดก่อนประกาศอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ตามแผนดำเนินการโรงไฟฟ้าชุมชนจะแบ่งเป็น 3 เฟส ได้แก่ 1. กลุ่มโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่องที่มีทั้งสิ้น 4 แห่ง ขนาดกำลังผลิตไม่เกินแห่งละ 8 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 2 โรง ซึ่งแต่เดิมเป็นโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐ ดำเนินการในจังหวัดยะลาและปัตตานี และเป็นของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 2 โรง ดำเนินการที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทั้งหมดจะกำหนด COD ในสิ้นปี 2563 คงเดิม เพราะโครงการส่วนใหญ่เดินหน้าไปมากแล้ว
ส่วนเฟสที่ 2 เป็นควิกวิน 100 เมกะวัตต์ ที่คาดว่า จะมีการลงทุนไม่น้อยกว่าหมื่นล้านบาททและสว่นที่ 3 คือ โรงไฟฟ้าชุมชนทั่วไป จำนวน 600 เมกะวัตต์ ซึ่งโครงการนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเปิดประชาพิจารณ์ได้เมื่อใด เนื่องจากขณะนี้มีปัญหาไวรัส COVID-19 ทำให้ยากต่อการเปิดให้ประชาชนมาร่วมประชุมเพื่อรับฟังความเห็นพร้อมกันจำนวนมาก แต่ยืนยันว่า โครงการนี้ไม่สามารถเปิดได้ทันในปี 2563 เนื่องจากต้องรอให้โครงการควิกวิน ดำเนินการผลิตไฟฟ้าเข้าระบบให้เสร็จสิ้นก่อน เพื่อนำมาเป็นต้นแบบในการดำเนินการในส่วนโรงไฟฟ้าชุมชนแบบทั่วไป