xs
xsm
sm
md
lg

เอเยนซีวุ่นลูกค้าชะลอใช้งบ YDM เทก “มัลเลนโลว์” ขยายตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - เอเยนซีส่อเค้าอาการหนัก โควิด-19 ฉุดลูกค้าชะลอแผนใช้เงินทำตลาด คาดลากยาวไปจนถึงไตรมาสสอง เชื่อสื่อดิจิทัลยังเติบโตได้อยู่ แต่อาจจะต่ำกว่า 20% ในรอบ 7 ปี "วายดีเอ็ม" ลุยเทกโอเวอร์ "มัลเลนโลว์" เข้าพอร์ต เชื่อปีนี้ยังเติบโต รับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 650 ล้านบาท

นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นมีผลกระทบในรูปแบบ butterfly effect เช่นเดียวกับในกลุ่มธุรกิจเอเยนซีที่ต้องปรับตัว ขณะที่ลูกค้าอยู่ในช่วง wait and see หยุดการใช้เงินเพื่อการตลาด เพราะไม่คุ้มที่จะทำ มองในเรื่องเงินสดในมือเป็นหลัก เพราะกลัวสถานการณ์จะซ้ำรอยต้มยำกุ้ง ทำให้การลงโฆษณาต้องเปลี่ยนไป โดยมองว่าสถานการณ์จะลากยาวอย่างน้อยไปจนถึงไตรมาสสอง และหวังว่าครึ่งหลังปี 2563 จะดีขึ้น โดยยังมั่นใจว่าสื่อดิจิทัลยังเป็นสื่อที่เติบโตได้อยู่ แต่อาจจะต่ำกว่า 20% เป็นปีแรกในรอบ 6-7 ปีที่ผ่านมา จากปกติโตไม่ต่ำกว่า 20-30% ทุกปี


ในส่วนของวายดีเอ็ม ไทยแลนด์ โชคดีที่คาดการณ์สถานการณ์ของปีนี้ไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ปลายปีก่อน ซึ่งเป็นการคาดการณ์เกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจที่เชื่อว่าจะไม่ค่อยดี แต่แล้วปีนี้กลับมีไวรัสโควิด-19 เข้ามาด้วย ยิ่งทำให้สถานการณ์รวมแย่ลงไปอีก แต่ทางวายดีเอ็มยังคงไม่ได้รับผลกระทบ เพราะวางแผนการทำงานไว้แล้ว เห็นได้จากตัวเลขรายได้ของไตรมาสแรกที่ทำได้ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้น ทั้งปีนี้มั่นใจว่าจะยังคงมีรายได้ที่ 650 ล้านบาทตามที่วางไว้ จากปีก่อนปิดรายได้ที่ 580 ล้านบาท

ล่าสุดปีนี้บริษัทยังได้ซื้อกิจการ MullenLowe Thailand เครือ IPG กลุ่มเอเยนซีสัญชาติอเมริกัน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้าน Branding & Creative เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านการตลาดครบวงจรทั้งออฟไลน์ ออนไลน์แบบ One Stop Sevice พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น MullenLowe Bangkok (มัลเลนโลว์ แบงค็อก) ตั้งเป้ารายได้ 50 ล้านบาทในปีนี้ ถือเป็นบริษัทที่ 3 ที่เทกโอเวอร์มา และเป็นบริษัทที่ 10 ในเครือวายดีเอ็ม ไทยแลนด์


นางสาวทุติยา ดิสภานุรัตน์ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจ O2O บริษัท วายดีเอ็ม ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ทั้งนี้ MullenLowe มีนโยบายปรับเปลี่ยนบิสิเนสโมเดลทั่วทั้งเอเชียทั้งเวียดนาม มาเลเซีย และล่าสุดคือ ประเทศไทยโดยการเข้าไปจับมือกับโลคัลเอเยนซีที่มีศักยภาพของประเทศนั้นๆ และทำธุรกิจร่วมกันในลักษณะพาร์ตเนอร์ แทนที่จะประกอบธุรกิจด้วยตนเองเช่นในอดีต

จากที่ผ่านมาทางวายดีเอ็ม ไทยแลนด์ ได้ทำงานร่วมกับ FCB Bangkok ในการทำ Integrate Marketing Communication ผสานความรู้ในเรื่องการทำ Branding, Digital Marketing และTechnology เข้าด้วยกัน ซึ่งโมเดลนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า แต่เนื่องจากมีลูกค้าค่อนข้างหลากหลายเข้ามามากขึ้น จึงจำเป็นต้องใช้ทั้ง 2 แอดเวอร์ไทซิ่งเอเยนซีมาช่วยทำงาน เพราะ FCB Bangkok เจ้าเดียวไม่น่าจะสามารถรองรับงานที่เข้ามาไหว

สำหรับแนวทางการบริหารมัลเลนโลว์ แบงค็อก จะนำจุดแข็งของวายดีเอ็ม ไทยแลนด์ เข้าไปเสริม คือ การนำเรื่อง Digital Marketing และ Technology โดยจะนำทีมงานคุณภาพ และ Digital Platform จากทั้ง 10 บริษัทในเครือ มาช่วยลูกค้าของมัลเลนโลว์ แบงค็อก ให้ก้าวไปสู่การทำตลาดยุคใหม่ ที่เรียกว่า Modern Marketing

"การซื้อ มัลเลนโลว์ แบงค็อก เข้ามาเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทรับลูกค้าเจ้าใหญ่ระดับอินเตอร์ที่พาร์ตเนอร์จากต่างประเทศจะส่งมาให้ ที่สำคัญ บริษัทจะมีโอกาสเข้าถึงเครื่องมือโนว์ฮาว และข้อมูลลูกค้าได้ทั้งหมด ซึ่งจะมีประโยชน์ในการนำมาใช้ในเชิงสร้างสรรค์งานและตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น จากปัจจุบันมัลเลนโลว์มีลูกค้าหลายสิบราย ส่วนใหญ่เป็นคอนซูเมอร์โปรดักต์ของทางยูนิลีเวอร์ และในแง่แบรนด์ ได้แก่ คนอร์, ซันไลต์, แมกนัม เป็นต้น ซึ่งไม่ทับซ้อมกับ FCB Bangkok ที่ลูกค้าหลักคือกลุ่มสกินแคร์" นางสาวทุติยากล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น