“ศักดิ์สยาม” ดันแผนฟื้นฟู ขสมก.เข้า ครม. เล็งเช่ารถ 2,511 คัน เน้น EV และไฮบริด พร้อมสั่ง สนข.ศึกษา ผุดบัสเลนกลางถนน เปิดทางรถเมล์วิ่งสะดวก คาดสรุปได้ใน 1 เดือน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สะสมมานาน โดยเฉพาะพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และเมืองใหญ่ ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้กำหนดมาตรการในการแก้ปัญหา ระยะสั้น ได้แก่ การดูแลและตรวจสภาพรถยนต์อย่างเข้มข้น ส่วนการทดลองติดตั้งเครื่องฟอกอากาศบนหลังคารถ ขสมก.นั้นอยู่ระหว่างเก็บข้อมูลไม่น้อยกว่า 30 วัน โดยผลเบื้องต้นได้ผลอากาศที่ผ่านเครื่องออกมาว่าค่า PM ลดลง
สำหรับมาตรการระยะกลางจะมีการปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ ลดการวิ่งทับซ้อน ทำให้ลดจำนวนรถเมล์ทั้งของ ขสมก.และรถร่วมเอกชน จากกว่า 6,000 คน เหลือ 3,000 คัน ขณะนี้ ขสมก.ได้เสนอแผนฟื้นฟูมายังกระทรวงคมนาคมแล้ว คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในเดือน มี.ค. ซึ่งตามแผนฟื้นฟูจะเป็นการเช่ารถวิ่งให้บริการ 3,000 คัน เป็นรถใช้พลังงานไฟฟ้า (EV) ,NGV และไฮบริด โดยตามแผนจะเปิดประมูล และส่งมอบรถคันแรกนำมาวิ่งบริการในวันที่ 1 ต.ค. 2564 และส่งมอบครบ ใน 1 ต.ค. 2565 เป็นรถปรับอากาศทั้งหมด ค่าโดยสาร 30 บาท (ตั๋ววัน) กรณีขึ้นเที่ยวเดียวจะเป็นค่าโดยสารตามระยะทาง สำหรับตั๋วเดือนจะมีค่าโดยสารเฉลี่ย 25 บาท/วัน
ส่วนระยะยาว ภายใน 5-7 ปีจะมีมาตรการเปลี่ยนรถในส่วนราชการจากเครื่องยนต์ดีเซล เป็น NGV หรือ EV โดยกระทรวงคมนาคมมอบให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ดำเนินการศึกษา
รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการบริหารกิจการ ขสมก. (บอร์ด) มีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟู เมื่อ 24 ก.พ. และเตรียมนำเสนอกระทรวงคมนาคม โดยจะมีการจัดหารถจำนวน 3,000 คัน ซึ่งจัดหาแล้ว รถ NGV จำนวน 489 คัน เหลือ 2,511 คัน จะใช้วิธีเช่าวิ่งตามระยะทาง โดยแผนใหม่จะเน้นรถไฮบริด และรถ EV มากกว่า NGV จากแผนเดิมที่มีการจัดการถ EV เพียง 35 คันเท่านั้น
ผุดบัสเลนกลางถนน เปิดทางพิเศษให้รถเมล์วิ่งสะดวก
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ขณะนี้ยังมีแนวคิดในการทำช่องทางรถเมล์ (บัสเลน) และจุดจอดรถรับส่งผู้โดยสารบริเวณเกาะกลางถนน จากปัจจุบันที่ให้วิ่งและจอดรับส่งที่เลนซ้ายสุดซึ่งเกิดการติดขัด จากรถที่เข้าออกซอย และรถจอดข้างทาง จากการไปดูงานที่ประเทศเกาหลีพบว่า มีการใช้รูปแบบบัสเลนอยู่กลางถนนได้ผลดี ป้ายรับส่งอยู่ห่างจากแยกไฟแดง 50-100 เมตร ประชาชนได้รับความสะดวกรวดเร็วในการใช้บริการรถเมล์ ขณะที่ผู้ใช้รถอื่นๆ ให้ความร่วมมือไม่วิ่งในช่องบัสเลน หากฝ่าฝืนมีบทลงโทษ ปรับหนัก และถึงขั้นยึดรถ
ในส่วนของถนนใน กทม. เห็นว่ามีความเป็นไปได้ในการทำป้ายรถเมล์กลางถนน มีตัวอย่างที่ถนนนราธิวาสซึ่งยังถนนที่มีกายภาพเหมาะสม เช่น ถนนเพชรบุรี สุขุมวิท พระราม 4 พระราม 6 จึงได้มอบหมายให้ สนข.ศึกษาและหารือร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร (กทม.) คาดว่าภายใน 1 เดือนจะมีความชัดเจน และเสนอคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ต่อไป
“จะต้องทำให้รถเมล์เป็นทางเลือกในการเดินทางของประชาชนแทนรถส่วนตัว และตั้งแต่ปี 2569 รถไฟฟ้าจะเปิดให้บริการครบ 10 สายตามแผน และมีการเชื่อมต่อกันกับรถเมล์ รถไฟฟ้า และเรือ จะทำให้การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะสะดวกขึ้น”
