ผู้จัดการรายวัน 360 - ไวรัสโควิด-19 กระทบตลาดนาฬิกา “มอริซ ลาครัวซ์” ปรับแผนการตลาดสู้ เปิดตัวรุ่นใหม่ร่วม 51 เอสเคยูในไทย ทดแทนคนเดินห้างน้อยลง
นายสเตฟาน วาเซอร์ กรรมการผู้จัดการ แบรนด์ มอริซ ลาครัวซ์ เปิดเผยว่า ไทยเป็นประเทศที่มีการนำเข้านาฬิกาแบรนด์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์สูงเป็นอันดับที่ 17 ในปีที่ผ่านมา (2562) โดยมีมูลค่าการนำเข้ามาในไทยหรือส่งออกมาจากสวิสมากถึง 7,000 ล้านบาท แม้จะน้อยกว่าปีก่อนหน้าก็ตาม แต่ตัวเลขล่าสุดในเดือน ม.ค. 63 ที่ผ่านมาพบว่ายอดการส่งออกมาไทยเพิ่มขึ้นกว่า 30% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ทางมอริซ ลาครัวซ์ยังมองไทยเป็นตลาดสำคัญอันดับที่ 14 ของการส่งออก เพราะคนไทยรักและนิยมซื้อนาฬิกาที่มีแบรนด์เป็นอันดับต้นๆ ของโลก
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาไวรัสโควิด-19 ขณะนี้มองว่าไม่กระทบต่อกำลังซื้อในไทยมากนัก แต่อาจจะกระทบต่อกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนมากกว่า แต่เนื่องจากมอริซ ลาครัวซ์เน้นกลุ่มเป้าหมายคนไทยเป็นหลักจึงไม่กังวล ถึงแม้ว่ากำลังซื้อครึ่งปีแรกอาจจะวิตกกังวล ลดการออกมาชอปปิ้งไปบ้าง แต่ครึ่งปีหลังเชื่อมั่นว่าจะดีขึ้น
ดังนั้น แผนการตลาดของมอริซ ลาครัวซ์ในปี 2563 นี้จึงมุ่งในเรื่องของการจัดโรดโชว์ กิจกรรมทางการตลาด และให้ความสำคัญต่อสื่อออนไลน์มากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ทดแทนพฤติกรรมออกมาชอปปิ้งตามห้างสรรพสินค้าที่ลดน้อยลง
ล่าสุดปีนี้ มอริซ ลาครัวซ์ เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่รวมกว่า 51 เอสเคยู โดยจะเน้นกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น จากปีก่อนมีสัดส่วน 30% จากนี้จะพยายามเพิ่มให้เป็น 40% โดยการเปิดตัวนาฬิกาคอลเลกชันใหม่ครั้งนี้จะมีทั้งในไลน์ ไอคอน (AIKON) และอื่นๆ ภายใต้งาน Aikonic Novelties of 2020 Collection ในการนำเสนอนาฬิการวม 5 รุ่น เช่น ไอคอน โครโนกราฟ สเกเลทัน, มาสเตอร์พีซ เอมเบรซ, เฟียบา มูนเฟส และไอคอน ควอตซ์ รุ่นใหม่ 2 แบบ 1 สไตล์ ที่เปิดตัวครั้งแรกในเอเชีย ซึ่งนาฬิกามอริซ ลาครัวซ์ มีวางจำหน่ายตั้งแต่ 30,000 บาท ไปจนถึง 500,000 บาท ขณะที่ระดับราคา 50,000-60,000 บาท เป็นระดับราคาที่ขายดีที่สุด โดยเฉพาะในรุ่นไอคอน ออโตเมติก
"ประเทศไทยเป็นตลาดที่มอริซ ลาครัวซ์ จัดจำหน่ายมาอย่างยาวนานและเป็นที่นิยมของลูกค้าชาวไทย จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่เลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียเพื่อพรีวิวสินค้าคอลเลกชันใหม่ของปี 2020 โดยปีนี้จะมีกลยุทธ์หลักอยู่สองข้อด้วยกัน คือ 1. มุ่งเน้นพัฒนาคอลเลกชัน AIKON โดยเจาะลึกลงไปในรายละเอียด ทั้งด้านคุณภาพและการออกแบบที่สร้างสรรค์ 2. นำเสนอคอลเลกชันสำหรับสุภาพสตรีให้มากขึ้นผ่านคอลเลกชัน Fiabo และMasterpiece"
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในตลาดประเทศไทย คือ การสร้างความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับลูกค้าชาวไทยให้มีมากขึ้นควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์เพื่อให้เกิดการรับรู้ในกลุ่มลูกค้าคนไทยเพิ่มมากขึ้น การเปิดตัวจะกำหนดกลุ่มเป้าหมายไปที่คนรุ่นใหม่หรือกลุ่มมิลเลนเนียล ผ่านคอลเลกชันต่างๆ ในทุกกิจกรรมที่จัดขึ้น จากทั้ง 5 รุ่นที่วางจำหน่ายในปีนี้