น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า สรันพัชญิ์ โพสต์ภาพผู้โดยสารนอนล้มลงบนพื้น พร้อมเขียนข้อความว่า “สนามบินตอนนี้ คนจีนอยู่ดีดีคือล้มตึ้งลงไปเลยจ้า บริเวณชั้น 3 รัฐบาลเอาอยู่จริงๆ จ้า ห้ามถ่ายรูปไปอีก น่ากลัวมาก” ภายหลังที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่ามีผู้โดยสารชาวจีนป่วยด้วยโรคไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ
จากกรณีดังกล่าว ทอท.ขอชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยจากการตรวจสอบพบว่าภาพที่เห็นว่ามีผู้โดยสารล้มลงอยู่กับพื้นนั้นเป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.22 น.ของวันที่ 28 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา โดยเป็นผู้โดยสารที่เมาสุราแล้วพลัดตกเก้าอี้บริเวณชั้น 3 ซึ่งเมื่อได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ฝ่ายแพทย์ได้เข้าให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น และได้พาผู้โดยสารคนดังกล่าวไปแจ้งความเนื่องจากทำพาสปอร์ตหาย
น.ท.สุธีรวัฒน์กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขอยืนยันว่าได้มีมาตรการเฝ้าระวังและคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 โดย ได้มีการยกระดับการตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าจากเดิมที่มีการตรวจคัดกรองเฉพาะเมืองอู่ฮั่น และกว่างโจว มาเป็นการตรวจคัดกรองทุกเที่ยวบินที่เดินทางมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน แล้วตั้งแต่วันนี้ (29 มกราคม 2563) ซึ่งได้ร่วมกับกรมควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศทำการติดตั้งเครื่อง Thermo Scan บริเวณจุดตัดอาคารเทียบเครื่องบิน D ทั้ง 2 จุด และบริเวณทางเข้าด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้ง 3 จุด รวมทั้งสิ้น 5 จุด
ทั้งนี้ ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญในเรื่องการรักษาความสะอาดในทุกพื้นที่ภายใน สนามบินโดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่มีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดตามจุดต่างๆ โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาด เช่น ภายในห้องน้ำ รถเข็นกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร เคาน์เตอร์ให้บริการสายการบิน เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ รวมถึงเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง ลิฟต์ ทางเดินเลื่อน ราวบันได พื้นที่พักคอย เป็นต้น
นอกจากนี้ยังได้มีการติดตั้งเครื่องจ่ายแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ณ บริเวณทางออกประตูเทียบเครื่องบินขาเข้าทุกประตูและพื้นที่อื่นๆ ที่มีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมากให้บริการอยู่แล้ว และยังได้ทำความสะอาดบริเวณ จุดรอคิวแท็กซี่ รวมถึงภายในรถ Shuttle Bus อีกด้วย
และได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถเช่า รถลีมูซีน รถแท็กซี่ ให้หมั่นทำความสะอาดภายในห้องโดยสาร เพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่ผู้มาใช้บริการสนามบิน และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา