"กรมควบคุมโรค" ออกหนังสือพร้อมภาพโต้ข่าวจากสำนักหนึ่ง กล่าวหายกเลิกคัดกรองผู้โดยสารด้วยเทอร์โมสแกน ยันยังคงดำเนินการทำถึง 2 ระดับชั้น คือ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้โดยสารทั่วไป และแบบเฉพาะเจาะจง โดยครอบคลุมทุกพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง
วันที่ 26 ม.ค. 63 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกหนังสือชี้แจงมาตรการคัดกรองผู้โดยสาร หลังมีข่าวกล่าวหาว่า ด่านควบคุมโรคสนามบินสุวรรณภูมิหยุดดําเนินการ ทําการตรวจคัดกรองผู้โดยสารด้วยเทอร์โมสแกน
โดยมีรายละเอียดดังนี้
เรื่อง ชี้แจงความเข้าใจจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับการดําเนินการเฝ้าระวังอุณหภูมิผู้โดยสาร
เรียน ผู้สื่อข่าวทุกสํานัก
จากการที่สํานักข่าวแห่งหนึ่ง เสนอข้อมูลคลาดเคลื่อนว่า “ด่านควบคุมโรคสนามบินสุวรรณภูมิหยุดดําเนินการ ทําการตรวจคัดกรองผู้โดยสารด้วย Thermoscan หรือหยุดใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนอินฟาเรด ซึ่งอาจทําให้เกิดความ เข้าใจผิดต่อสาธารณชน โดยข้อเท็จจริง คือ
ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังคงดําเนินการทํา Thermoscan ๒ ชั้นระดับ ได้แก่
ระดับชั้นที่ ๑ เป็นไปตามมาตรฐานสากล ทําการตรวจว้นอุณหภูมิร่างกายผู้โดยสารทั่วไป โดยการใช้อุปกรณ์ Thermoscan camera surveillance เพื่อคัดกรองอุณหภูมิ “ผู้โดยสารทุกคน” ที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยจากเที่ยวบิน ทั่วโลก บริเวณทางเข้าก่อนถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้ง ๓ ช่องทาง และครอบคลุมทุกพื้นที่ตลอด ๒๔ ชั่วโมง โดยเป็นเครื่อง ที่มีกล้องติดตั้งคล้ายระบบ CCTV โดยศูนย์กลางควบคุมอยู่ที่สถานีด่านควบคุมโรคในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเฝ้าระวัง อุณหภูมิผู้โดยสารตลอด ๒๔ ชั่วโมง เป็นมาตรฐานสากลที่สนามบินนานาชาติในเอเซียดําเนินการมาต่อเนื่องประมาณ ๓ ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๐
ระดับชั้นที่ ๒ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้โดยสารระดับเฉพาะเจาะจงพิเศษ เป็นการทํา Thermoscan camera Surveillance แบบ target flight/destination เป็นการดําเนินการเสริมในกรณีที่เกิดเหตุการณ์โรคระบาดเกิดขึ้นใน ต่างประเทศ โดยจะทําการติดตั้งอุปกรณ์ mobile thermoscan Camera ตามจุดที่กําหนดไว้โดยเฉพาะบริเวณเส้นทาง เดินจากประตูเครื่องบินของผู้โดยสารเดิน ก่อนเข้าไปยังอาคารสนามบิน โดยมีกระบวนการตรวจเช็ค ๒ รูปแบบ ได้แก่
๒.๑. แบบเจาะจง ประตูทางออก (Target Gate) ในกรณีที่ประเทศต้นทางของการระบาดเชื้อโรค มีจํานวนเที่ยวบินไม่มากนัก เจ้าหน้าที่จะทําการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจ Thermoscan บริเวณด้านหน้าประตูเครื่องบินที่ กําหนดไว้ โดยผู้โดยสารจะต้องผ่านการคัดกรองทุกคน หากพบภูมิร่างกายผิดปกติ เช่น ไข้ต่ำ เจ้าหน้าที่จะวัดอุณหภูมิ ร่างกายทางใบหูซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันอุณหภูมิจริงของร่างกาย ด้วยวิธการนี้ทําให้สามารถตรวจพบผู้โดยสารที่มีไข้และยืนยัน การติดเชื้อโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ๒๐๑๕ จากเมื่ออู่ฮั่นได้เป็นรายแรกที่อยู่นอกประเทศจีน ทั้งนี้ความสําเร็จดังกล่าวเกิดขึ้น จากความสามัคคี และช่วยเหลือของภาคี อาทิเช่น การท่าอากาศยาน (ฝ่ายการแพทย์ ฝ่ายบริหาร) สายการบิน และ ด่าน ตรวจคนเข้าเมือง
๒.๒ แบบเจาะจง อาคารเทียบเครื่องบิน (Target Concord) โดยดําเนินการติดตั้งอุปกรณ์ Thermoscan camera ในแบบ concord screening โดยกําหนดให้เที่ยวบินที่มาจากประเทศที่มีการระบาดของเชื้อโรค ให้ลงในอาคารสถานที่เดียวกัน เพื่อไม่ให้ปะปนกับผู้โดยสารจากประเทศอื่น