“วีรศักดิ์” คิกออฟปล่อยคาราวานทีมพัฒนาร้านโชวห่วยเป็น “สมาร์ทโชวห่วย” ดึงนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชมงคลอีสานที่ผ่านการฝึกอบรมเข้ม ลงพื้นที่ช่วยจัดร้านและปรับภาพลักษณ์ร้านค้าในพื้นที่ให้สวยงาม ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าได้ง่าย บริหารสต๊อกคล่องตัว ประเดิมร้านโอ๋ โชวห่วยขนาด SS คาดเพิ่มรายได้ไม่ต่ำกว่า 10% เผยในนครราชสีมา มีร้านโชวห่วยรวม 4,158 ร้าน เตรียมลุยช่วยต่อ พร้อมเยี่ยมสถานดูแลผู้สูงอายุ รับฟังความคิดเห็น ก่อนนำไปกำหนดนโยบายส่งเสริมธุรกิจต่อไป
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานในพิธีปล่อยคาราวานขบวนรถทีมพัฒนาร้านค้า Smart โชวห่วย ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2563 ว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน นำนักศึกษาที่ผ่านการอบรมทีมพัฒนาร้านสมาร์ท โชวห่วย ส่งลงพื้นที่ไปยังร้านโชวห่วยที่อยู่ในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อช่วยจัดร้านและปรับภาพลักษณ์ร้านค้า เพื่อผลักดันให้ร้านโชวห่วยพัฒนาเป็นสมาร์ทโชวห่วย ซึ่งประกอบด้วยการจัดร้านค้า, การนำระบบ IT มาบริหารจัดการ, การจัดโปรโมชัน, การเพิ่มรายได้เสริม และการหาแหล่งเงินทุน
ทั้งนี้ มีข้อมูลจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมาว่า มีร้านโชวห่วยในจังหวัดที่มีความพร้อมจะพัฒนาเป็นสมาร์ท โชวห่วย จำนวน 4,158 ร้าน แบ่งเป็นขนาด SS ร้อยละ 62.7 ขนาด S ร้อยละ 19.4 ขนาด M ร้อยละ 13.4 และขนาด L ร้อยละ 4.5 และหากพัฒนาร้านโชวห่วยให้มีศักยภาพได้เพิ่มขึ้น ก็จะช่วยรองรับการใช้จ่ายของประชาชนที่อยู่ในจังหวัด ซึ่งปัจจุบันจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของไทย มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ มีจำนวนกว่า 2.6 ล้านคน (ข้อมูลจากกรมการปกครอง)
นายวีรศักดิ์กล่าวว่า การพัฒนาร้านโชวห่วยจะเข้าไปช่วยจัดร้านโดยจะเริ่มจากการจัดหมวดหมู่ของสินค้าให้เป็นระบบตามประเภทของสินค้า ง่ายต่อการเลือกซื้อสินค้าของลูกค้า การเว้นพื้นที่ทางเดินที่เหมาะสม ไม่มีสิ่งกีดขวาง การจัดเรียงสินค้าที่ง่ายต่อการพบเห็น และจัดมุมโปรโมชันสำหรับสินค้าขายดี ซึ่งการจัดสินค้าในลักษณะนี้ จะทำให้ร้านโชวห่วยเป็นระเบียบ สวยงาม ช่วยดึงดูดให้ลูกค้าเข้าร้าน อีกทั้งยังทำให้เจ้าของร้านบริหารจัดการสต๊อกสินค้าได้ดียิ่งขึ้น รู้ว่าสินค้าใดเป็นที่ต้องการของลูกค้าหรือสินค้าใดที่ไม่ได้รับความนิยมจะได้ไม่ต้องสต๊อกสินค้าไว้ในคลังจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาถือเป็นจุดอ่อนใหญ่ของร้านโชวห่วยที่ทำให้เงินทุนจมอยู่กับสินค้าที่ขายไม่ได้
“ได้ลงพื้นที่ ณ ร้านโอ๋ ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอเมืองฯ และได้มอบตราสัญลักษณ์ร้านสมาร์ทโชวห่วย สำหรับติดหน้าร้าน เพื่อเป็นเครื่องหมายการันตีสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าตัดสินใจเดินเข้าได้แบบไม่ลังเล โดยร้านโอ๋เป็นร้านโชวห่วยที่ตั้งอยู่ใจกลางชุมชน มีขนาด SS รายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน และมั่นใจว่าการปรับโฉมร้านค้า แม้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเป็นสมาร์ทโชวห่วย แต่จะช่วยให้ร้านสามารถเพิ่มยอดขายได้มากถึงร้อยละ 10 เลยทีเดียว” นายวีรศักดิ์กล่าว
นายวีรศักดิ์กล่าวว่า ยังได้เดินทางไปเยี่ยมชมสถานดูแลผู้สูงอายุจำนวน 2 แห่งในจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ 1. ศูนย์ฟื้นฟูบ้านผู้สูงอายุพาดี ตำบลหนองจะบก มีพยาบาลวิชาชีพเป็นผู้ดำเนินกิจการ และมีพนักงานที่ผ่านการฝึกอบรมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง อัตราค่าบริการรายเดือน 15,000-23,000 บาท และ 2. บ้านผู้สูงอายุราชสีมา อำเภอเมือง เป็นหน่วยงานภายใต้มูลนิธิคณะนักบุญคามิลโลแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ไม่แสวงหากำไร บริหารงานโดยนักบวชคณะคามิลเลียนที่ทำงานให้บริการด้านสุขภาพในประเทศไทยมากว่า 60 ปี อัตราค่าบริการรายวันอยู่ระหว่าง 500-1,500 บาท และรายเดือน 15,000-25,000 บาท ทั้งนี้ สถานดูแลผู้สูงอายุทั้ง 2 แห่ง เปิดให้บริการดูแลผู้สูงอายุหรือบุคคลทั่วไปที่มีภาวะพึ่งพิง ไม่สามารถช่วยตัวเองได้และผู้ป่วยที่นอนติดเตียง โดยมีบริการที่พักแบบชั่วคราวและแบบประจำ
โดยเป้าหมายของการลงพื้นที่เยี่ยมชมธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในครั้งนี้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการอันจะนำไปสู่การผลักดันแนวทางการส่งเสริมธุรกิจดังกล่าวในระดับนโยบายประเทศ และมีเป้าหมายเพื่อดูแลผู้สูงอายุในจังหวัดนครราชสีมา เพราะเป็นจังหวัดที่มีประชากรผู้สูงอายุมากเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไทย รองจากกรุงเทพฯ มีผู้สูงอายุ 435,347 คน คิดเป็นร้อยละ 16.45 ของประชากรในจังหวัด (ข้อมูลจากกรมการปกครอง ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2561)