นายภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องแก้ไขควบคู่กับการพัฒนาธุรกิจขององค์กร ล่าสุดบริษัทได้จัดแคมเปญ "เกี่ยวช่วยโลก" ชวนให้ผู้บริโภคหันมาดื่มน้ำสิงห์ในบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแผนการลดขยะภายใต้กรอบ 3R ได้แก่ Reuse การนำขวดแก้วกลับมาใช้ซ้ำ ผ่านกระบวนการที่ทันสมัย Reduce ลดการใช้พลาสติก ลดสร้างขยะ Recyele นำขวดแก้วที่ใช้มาระยะหนึ่งแล้วนำมาทำลายเพื่อผลิตขวดแก้วใหม่ เนื่องจากเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำมาใช้ได้ใหม่ 100%
ขณะที่น้ำดื่มสิงห์ที่มีบรรจุภัณฑ์ขวดพลาสติกใช้พลาสติก PET1 นำไปรีไซเคิลได้ 100% โดยในปีที่ผ่านมา (2562) ทำการสื่อสารผ่านฉลากน้ำดื่มสิงห์ให้รับรู้และรณรงค์ให้ช่วยแยกขวดน้ำดื่มสู่กระบวนการรีไซเคิลต่อไป นอกจากนี้ยังได้เปลี่ยนฝาบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วใหม่ ให้สื่อถึงโครงการพร้อมระบุข้อความ "เกี่ยวช่วยโลก" ลงบนฝาน้ำดื่มขวดแก้ว ตอกย้ำแคมเปญให้เป็นที่จดจำแก่ผู้บริโภคมากขึ้น
ด้านนายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจนอนแอลกอฮอลล์ บริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดน้ำดื่มปี 2562 ที่ผ่านมาโต 10% หรือมูลค่าที่ 38,700 ล้านบาท จำหน่ายได้กว่า 3,600 ล้านลิตร ปี 2563 นี้คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นจากเดิม จากปัญหาภัยแล้งที่เริ่มมีสัญญาณออกมา กับยอดขายน้ำดื่มสิงห์ในช่วงนี้ที่เติบโตขึ้นจากปกติบ้างแล้ว และเฉพาะในเดือน เม.ย.น่าจะมียอดขายสูงขึ้นจากปกติร่วม 30% โดยในส่วนน้ำดื่มสิงห์เอง มั่นใจว่าปัญหาแหล่งน้ำมีเพียงพอในการผลิตน้ำดื่ม อีกทั้งปัจจุบันกำลังการผลิตอยู่ที่ 100% มั่นใจว่าสามารถรองรับความต้องการน้ำดื่มที่เพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน ปีนี้จะขับเคลื่อนการทำตลาดในกลุ่มน้ำดื่มสิงห์ ภายใต้แคมเปญ "เกี่ยวช่วยโลก" ด้วยผลิตภัณฑ์น้ำดื่มสิงห์ในขวดแก้ว ถือเป็นจุดแข็งของบริษัทที่แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ ซึ่งน้ำดื่มสิงห์ขวดแก้วปัจจุบันลูกค้าที่ใช้บริโภคส่วนใหญ่จะเป็นองค์กรธุรกิจ ภัตตาคาร ร้านอาหารต่างๆ เราจึงต้องทำแคมเปญกระตุ้นให้ลูกค้ากลุ่มนี้ใช้น้ำดื่มขวดแก้วมากขึ้น ขยายจำนวนร้านค้าพันธมิตรให้กว้างขวางออกไปเรื่อยๆ ส่วนผู้บริโภคต้องการสร้างการรับรู้และเพิ่มทางเลือก หากต้องการบริโภคขวดแก้วสามารถติดต่อผ่านคอลเซ็นเตอร์ 1245 กด 8 หรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้าน พร้อมส่งถึงบ้าน ครั้งแรกต้องสั่ง 7 ลังขึ้นไป ครั้งต่อไปขั้นต่ำ 5 ลังขึ้นไป
"ปัจจุบันน้ำดื่มสิงห์บรรจุภัณฑ์ขวดแก้วมีสัดส่วนการขาย 12% และขวด PET 88% และเฉพาะในเซกเมนต์ขวดแก้ว สิงห์เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 48.2% ขณะที่ตลาดรวมน้ำดื่มเป็นขวดแก้วเพียง 14% ทั้งนี้ สิงห์ต้องการผลักดันยอดขายกลุ่มขวดแก้วให้เพิ่มเป็น 20% ภายใน 1-2 ปีนี้ หรือภายในสิ้นปีตั้งเป้ายอดขายน้ำดื่มโตขึ้นอีกประมาณ 14% หรือจำหน่ายน้ำดื่มได้กว่า 1,400 ล้านลิตร และกว่า 180 ล้านลิตรมาจากขวดแก้ว จากปีก่อนทำได้ 1,225 ล้านลิตร เป็นขวดแก้ว 150 ล้านลิตร" นายธิติพรกล่าวสรุป
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง ฝ่ายกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า การกระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวไทยหันมาดื่มน้ำขวดแก้วมากขึ้น ผ่านแคมเปญการตลาดเกี่ยวช่วยโลก จะมีส่วนช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดปริมาณขยะจากร้านค้า องค์กรธุรกิจ ตลอดจนผู้บริโภค เริ่มได้จากตัวเอง
ทั้งนี้ ปัญหาขยะเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของโลกและประเทศไทย เพราะการบริโภคที่เพิ่มขึ้นทำให้ปริมาณขยะเพิ่มตามไปด้วย ในปี 2561 ประเทศไทยมีปริมาณขยะจำนวน 27.93 ล้านตัน เป็นขยะพลาสติกกว่า 2 ล้านตัน
ที่ผ่านมาขยะพลาสติกถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ร้าย แต่ข้อดีของพลาสติกคือมีความใส น้ำหนักเบา มีความเหนียว ทนต่อแรงกระแทก โอกาสเปราะแตกมีน้อยมาก ที่สำคัญปลอดภัย เพราะในการนำมาบรรจุสินค้าต่างๆ ช่วยป้องกันการซึมผ่านของก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกได์ได้เป็นอย่างดี คุณสมบัติการขึ้นรูปทรงต่างๆ ได้หลากหลาย และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้ รวมถึงขวด PET1 สามารถนำมารีไซเคิลได้ แต่ต้องมีการแยกขยะให้ถูกต้อง ปัจจุบันการรีไซเคิลขวด PET ในประเทศไทยสามารถดำเนินการได้ประมาณ 80% โดยมีบางส่วนที่ตกค้างไปตามแม่น้ำลำคลอง ทะเล และบ่อขยะต่างๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อโลกตื่นตัวรักษาสิ่งแวดล้อม การลด ใช้ซ้ำ นำขยะกลับมาใช้ใหม่เป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนรณรงค์กันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะภาคเอกชน องค์กรห้างร้านขนาดใหญ่ทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะในการดำเนินธุรกิจมีความใกล้ชิดกับผู้บริโภคอยู่แล้ว เมื่อทำโครงการต่างๆ จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้าง และในส่วนผู้บริโภคเองก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือที่ร้าน