แคมเปญ “เกี่ยวช่วยโลก” โดยผลิตภัณฑ์น้ำดื่มสิงห์ ต้องการให้ผู้บริโภคตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า “ลดการใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง” จึงได้รณรงค์การใช้ขวดแก้วเป็นหนึ่งทางเลือกในชีวิตประจำวัน พร้อมผนึกพันธมิตรผู้ประกอบการ ร้านค้า ร้านอาหาร ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ล่าสุด บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด จัดแคมเปญ “เกี่ยวช่วยโลก” เพื่อชวนทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันดูแลโลก ด้วยการชวนให้ผู้บริโภคหันมาดื่มน้ำสิงห์ในบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแกนการลดขยะภายใต้กรอบ 3R ได้แก่ Reuse การนำขวดแก้วกลับมาใช้ซ้ำได้ โดยผ่านกระบวนการผลิตอันทันสมัยและผ่านการทำความสะอาดที่มีมาตรฐาน, Reduce ลดการใช้พลาสติก ลดการสร้างขยะ และ Recycle เมื่อขวดแก้วถูกใช้ไประยะหนึ่งแล้วจะถูกนำไปผ่านกระบวนการทำลาย เพื่อผลิตขวดแก้ว ขวดใหม่ต่อไป ดังนั้นทางบริษัทฯจึงทำแคมเปญ “เกี่ยวช่วยโลก” โดยนำเสนอน้ำดื่มขวดแก้ว ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆที่ทุกคนสามารถเริ่มจากตัวเองเพื่อช่วยโลกได้
ภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “แนวทางการทำตลาดน้ำดื่มสิงห์ ให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้บริโภคทั้งคุณภาพน้ำดื่ม และยังมองผลกระทบสิ่งแวดล้อม มุ่งลดปริมาณขยะ เราจึงกระตุ้นการบริโภคน้ำดื่มขวดแก้ว เนื่องจากเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำมาใช้ได้ใหม่ (Reuse) 100% ลดการใช้แล้วทิ้ง จึงทำให้กระบวนการของน้ำดื่มสิงห์ขวดแก้วตั้งแต่ผลิตจากโรงงานจนไปถึงมือผู้บริโภค มั่นใจได้ว่าก่อให้เกิดขยะน้อยที่สุด ขณะที่ขวดพลาสติกเราพยายามสร้างความเข้าใจให้กับผู้บริโภคว่าการใช้บรรจุภัณฑ์ขวดพลาสติกไม่ใช่เรื่องเลวร้าย หากผู้บริโภคแยกขยะให้ถูกต้อง มีการจัดเก็บที่ดี สามารถนำมาผ่านกระบวนการรีไซเคิลต่อไปได้เช่นกัน”
โดยแคมเปญนี้เราได้สื่อสารกับผู้บริโภคผ่านการทำคลิปวิดีโอออนไลน์ นำเด็กซึ่งเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ และจะเป็นคนรุ่นถัดไปมานำเสนอผ่านการเกี่ยวก้อยสัญญากับธรรมชาติต่างๆ รอบตัว ว่าจะดูแล รักษา และใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า เพื่อให้ธรรมชาติที่ดีคงอยู่ต่อไป
ส่วนในการผลิตน้ำดื่มสิงห์มีบรรจุภัณฑ์ขวดพลาสติก เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในด้านความสะดวกสบาย บริษัทฯเลือกใช้พลาสติก PET1 ซึ่งเป็นประเภทของพลาสติกที่มีคุณภาพสูง สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% โดยปลายปีที่ผ่านมายังทำการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายผ่านทางฉลากน้ำดื่มสิงห์ในขวด PET ไซส์ 600, 750 และ 1,500cc. ให้รับรู้และรณรงค์ให้ช่วยแยกขวดน้ำดื่มดังกล่าว เพื่อนำไปผ่านกระบวนการรีไซเคิลต่อไป
นอกจากนี้ บริษัทฯได้ปรับเปลี่ยนฝาบรรจุขวดแก้ว(Maxi)ใหม่ ให้สื่อถึงโครงการ พร้อมระบุข้อความ “เกี่ยวช่วยโลก” ลงบนฝาน้ำดื่มสิงห์ขวดแก้ว เพื่อสื่อให้ผู้บริโภครับรู้และช่วยกันเกี่ยวเพื่อเปิดฝาขวดน้ำดื่ม แสดงถึงสัญลักษณ์ของการเกี่ยวก้อยสัญญา ตอกย้ำแคมเปญให้เป็นที่จดจำแก่ผู้บริโภคมากขึ้นด้วย
“เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องแก้ไขควบคู่กับการพัฒนาธุรกิจขององค์กร ในฐานะของเราเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้โดยตลอด พร้อมอีกหลายหน่วยงานในเครือจึงได้มีโครงการสำคัญมากมาย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดูแล รักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ สิงห์ เอสเตท ที่ประกาศตัวลุกขึ้นมาทำโครงการรณรงค์ลดขยะพลาสติก การนำพลาสติกไปใช้ให้เกิดประโยชน์ แทนการปล่อยให้ย่อยสลาย ซึ่งใช้เวลาหลายสิบปี, บริษัท ขอนแก่นบริวเวอรี่ จํากัด มีการบริหารจัดการบำบัดน้ำภายในโรงงาน ด้วยการนำไปใช้ในสนามกอล์ฟ สิงห์ปาร์ค ขอนแก่น, สิงห์ปาร์ค เชียงราย ได้พัฒนาโครงการเพิ่มพื้นที่ สีเขียวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบริหารจัดการปริมาณขยะภายในไร่ ฯลฯ” ภูริต กล่าวในที่สุด
ด้าน ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจนอนแอลกอฮอลล์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กล่าวเสริมว่า แคมเปญนี้ เป็นการตอกย้ำถึงจุดแข็งของการมีบรรจุภัณฑ์ขวดแก้ว เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการดื่มน้ำในชีวิตประจำวัน หากขวดแก้วมีการเติบโตมากขึ้น ยังช่วยลดปริมาณขยะที่จะส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมด้วย โดยเรามุ่งเน้นไปที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำในบ้านของผู้บริโภค อีกทั้ง ยังชวนพันธมิตรรายอื่นๆ ในหลายภาคส่วน เพื่อปลุกกระแสและสร้างการรับรู้ในวงกว้าง เช่น บริษัทในเครือบุญรอดฯ, ร้านอาหาร, โรงแรม โรงพยาบาล, มหาวิทยาลัยต่างๆ ฯลฯ ให้หันมาใช้น้ำดื่มขวดแก้วเพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ผู้บริโภค
“น้ำดื่มสิงห์ขวดแก้วถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของเรา ที่แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ ขณะที่น้ำดื่มขวดแก้วปัจจุบัน ลูกค้าที่ใช้บริโภคส่วนใหญ่จะเป็นองค์กรธุรกิจ ภัตตาคาร ร้านอาหารต่างๆ เราจึงต้องทำแคมเปญกระตุ้นให้ลูกค้ากลุ่มนี้ใช้น้ำดื่มขวดแก้วมากขึ้น ขยายจำนวนร้านค้าพันธมิตรให้กว้างขวางออกไปเรื่อยๆ ส่วนผู้บริโภคเราต้องการสร้างการรับรู้และเพิ่มทางเลือก หากต้องการบริโภคน้ำดื่มสิงห์ขวดแก้ว สามารถติดต่อผ่าน Call Center 1245 กด 8 หรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้าน เราพร้อมไปส่งให้ถึงบ้าน เพื่อความสะดวกสบาย โดยไม่ต้องกังวลจะถือให้หนักหรือขวดแตกเสียหาย โดยสามารถสั่งผ่านช่องทางออนไลน์ได้ในอนาคต”
ปัจจุบันน้ำดื่มสิงห์บรรจุภัณฑ์ขวดแก้วมีสัดส่วนการขาย 12% และขวด PET 88% โดยน้ำดื่มสิงห์ขวดแก้วเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 48.2%
ขณะที่ ผศ. ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง ฝ่ายกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า การกระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวไทยหันมาดื่มน้ำขวดแก้วมากขึ้น ผ่านแคมเปญการตลาดเกี่ยวช่วยโลก จะมีส่วนช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดปริมาณขยะจากร้านค้า องค์กรธุรกิจ ตลอดจนผู้บริโภคเริ่มได้จากตัวเอง
ทั้งนี้ ปัญหาขยะเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของโลกและประเทศไทย เพราะการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณขยะเพิ่มตามไปด้วย ในปี 2561 ประเทศไทยมีปริมาณขยะจำนวน 27.93 ล้านตัน เป็นขยะพลาสติกกว่า 2 ล้านตัน
ที่ผ่านมาขยะพลาสติกถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ร้าย แต่ข้อดีของพลาสติกคือมีความใส น้ำหนักเบา มีความเหนียว ทนต่อแรงกระแทก โอกาสเปราะแตกมีน้อยมาก ที่สำคัญปลอดภัย เพราะในการนำมาบรรจุสินค้าต่างๆช่วยป้องกันการซึมผ่านของก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกได์ได้เป็นอย่างดี คุณสมบัติการขึ้นรูปทรงต่างๆได้หลากหลาย และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้ รวมถึงขวด PET1 สามารถนำมารีไซเคิลได้ แต่ต้องมีการแยกขยะให้ถูกต้อง ปัจจุบันการรีไซเคิลขวด PET ในประเทศไทยสามารถดำเนินการได้ประมาณ 80% โดยมีบางส่วนที่ตกค้างไปตามแม่น้ำลำคลอง ทะเล และบ่อขยะต่างๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อโลกตื่นตัวรักษาสิ่งแวดล้อม การลด ใช้ซ้ำ นำขยะกลับมาใช้ใหม่เป็นสิ่งที่ ทุกภาคส่วนรณรงค์กันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะภาคเอกชน องค์กรห้างร้านขนาดใหญ่ ทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะในการดำเนินธุรกิจมีความใกล้ชิดกับผู้บริโภคอยู่แล้ว เมื่อทำโครงการต่างๆจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้าง และในส่วนผู้บริโภคเองก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือที่ร้าน