กระทรวงอุตสาหกรรมแก้ปัญหาภัยแล้ง มอบระบบกักเก็บน้ำช่วยวิสาหกิจชุมชน นำร่อง 10 หมู่บ้านในจังหวัดชัยภูมิ ลดการซื้อน้ำกว่า 5 ล้านลิตรต่อปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 แสนบาท
นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ทุกภาคส่วนเร่งแก้ไขปัญหาภาวะภัยแล้งที่คาดว่าจะรุนแรงในปีนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ดำเนินมาตรการรับมือวิกฤตภัยแล้งด้วยกลไกประชารัฐ โดยมีมาตรการสำคัญและเร่งด่วนในการรับมือสถานการณ์วิกฤตภัยแล้งในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงมาตรการในการลดความเดือดร้อนจากสภาวะเศรษฐกิจผันผวน โดยสนับสนุนสินเชื่อ การสร้างงานสร้างอาชีพ และการสร้างโอกาสทางการตลาด รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชนสามารถปรับตัวและรับมือกับวิกฤตการณ์และสภาวะดังกล่าวทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
ทั้งนี้ กสอ.ได้ดำเนินกิจกรรมผ่านการสนับสนุนอุปกรณ์ภาชนะในการกักเก็บน้ำและถ่ายทอดองค์ความรู้การสร้างภาชนะกักเก็บน้ำ การบริหารจัดการน้ำเพื่อใช้ผลิตและอุปโภคบริโภคในระดับครัวเรือนและระดับชุมชนในท้องถิ่น รวมถึงกิจกรรมการสนับสนุนสินเชื่อแก่เอสเอ็มอีผ่านกองทุนพัฒนา SME ตามแนวประชารัฐ กิจกรรมการส่งเสริมสนับสนุนเอสเอ็มอีด้านการตลาดทั้งในรูปแบบออนไลน์ด้วยอีคอมเมิร์ซ และแบบออฟไลน์ด้วยการจัดกิจกรรมการจำหน่ายสินค้า
รวมทั้งกิจกรรมสร้างโอกาสทางการตลาดและส่งเสริมการลงทุน เพื่อเป็นการสร้างและขยายโอกาสทางการตลาดกับต่างประเทศ ซึ่ง กสอ.ได้กำหนดมาตรการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ โดยการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ผ่านกิจกรรมนำร่องระบบกักเก็บน้ำเพื่อวิสาหกิจชุมชนและราษฎร ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความรับรู้การจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับกักเก็บน้ำเพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ เพื่อผลิต ประกอบการ และอุปโภคบริโภค และพัฒนาทักษะฝึกวิธีคิดการพัฒนาตนเองให้สามารถเข้าใจและตระหนักถึงการบริหารจัดการน้ำ และการใช้น้ำเพื่อประโยชน์สูงสุด
“การดำเนินกิจกรรมนำร่องระบบกักเก็บน้ำเพื่อวิสาหกิจชุมชนและราษฎร สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดให้กับเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน หรือแม้แต่ในระดับครัวเรือนในพื้นที่ต่างๆ ช่วยลดการสูญเสียโอกาสทางการค้า สร้างรายได้และเพิ่มศักยภาพในการผลิตผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชน” นางสาวสุชาดากล่าว
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กสอ.ได้กำหนดมาตรการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ โดยการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ภายใต้กิจกรรมนำร่องระบบกักเก็บน้ำเพื่อวิสาหกิจชุมชนและราษฎร และได้คัดเลือกพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตภัยแล้ง โดยมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบกว่า 16 อำเภอ 120 ตำบล 1,542 หมู่บ้าน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1,100 ล้านบาท ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สำหรับเกษตรกรรม ขณะเดียวกัน ประชาชนในพื้นที่ยังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในการอุปโภค บริโภคด้วย
“ได้นำร่องกลุ่มวิสาหกิจและประชาชนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิจำนวน 10 หมู่บ้าน ทั้งในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอบำเหน็จณรงค์ อำเภอหนองบัวระเหว และอำเภอจัตุรัส โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำกว่า 5,037,000 ลิตรต่อปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 270,660 บาทต่อ โดย กสอ.จะยังดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ประสบภัยแล้ง ทั้งการสร้างระบบกักเก็บน้ำ และการฝึกอาชีพ โดยมีเป้าหมายทั้งสิ้น 10,000 ครัวเรือน” นายณัฐพลกล่าว