“ศักดิ์สยาม” สั่งกรมทางหลวงสร้างจุดพักรถริมถนนวงแหวนรอบนอก 4 ทิศทาง สกัดรถบรรทุกก่อนเข้าเมือง รองรับนโยบายจำกัดเวลา พร้อมเร่งนโยบาย 120 กม./ชม. นำร่องปรับ-จับ ขับช้าแช่เลนขวาก่อน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้กรมทางหลวง (ทล.) ศึกษาจุดจอดพักรถบรรทุก (Truck Rest Area) เพิ่มเติมตามแนวถนนกาญจนาภิเษก หรือถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9) ทั้ง 4 ทิศ คือ ด้านเหนือ, ใต้, ตะวันออก, ตะวันตก เพื่อรองรับนโยบายที่จะมีการจำกัดเวลารถบรรทุกเข้าพื้นที่ กทม.อีกด้วย โดยคาดว่าจะมีปริมาณ รถบรรทุกที่เข้ามาใช้จุดพักรถบรรทุกราว 5 หมื่นคัน/วัน
ทั้งนี้ ทล.มีแผนโครงการจุดพักรถบรรทุกอยู่แล้ว ดังนั้น จะเป็นการเพิ่มเติมจุดพักรถบรรทุกเข้าไปในแผนและปรับปรุงข้อมูลในแผนเดิมที่ศึกษาไว้นานแล้วให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น ส่วนการลงทุนนั้นรูปแบบการให้เอกชนลงทุนเป็นการลดภาระภาครัฐ แต่ต้องดูความเหมาะสมอีกครั้ง
นอกจากนี้ ทล.พิจารณาการตั้งจุดพักรถบรรทุกให้อยู่ห่างจากถนนไม่ต่ำกว่า 1 กม. เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจราจรบนถนน เนื่องจากปัจจุบันพบว่าสถานีบริการน้ำมันจะตั้งอยู่ริมถนน ซึ่งเมื่อมีปริมาณรถใช้บริการมาก จะเกิดปัญหาติดขัดเข้ามาบนถนน ดังนั้น ก่อนที่ ทล.จะอนุญาตให้มีการเชื่อมทางจะต้องพิจารณาระยะห่างจากสถานีบริการน้ำมันกับถนนไม่ต่ำกว่า 1 กม.เช่นกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบัน ทล.ได้ดำเนินการก่อสร้างจุดพักรถบรรทุกตามแผนแม่บทซึ่งกำหนดจุดพักรถบรรทุกตามเส้นทางการขนส่งสินค้าหลักของประเทศ เพื่อให้เป็นจุดจอดพัก ให้คนขับรถคลายความเหนื่อยล้า รวมถึงการจอดข้างทางอาจเกิดอุบัติเหตุชนท้ายรถที่จอดได้ ซึ่งมีจำนวน 41 แห่ง และมีการเปิดใช้แล้ว 2 แห่ง ที่จุดพักรถโนนสูง (ขาเข้า) และจุดพักรถโนนสูง (ขาเข้า) จังหวัดนครราชสีมา
สำหรับจุดพักรถตามแนวถนนวงแหวนรอบนอกนั้น จะต้องมีการศึกษาเพื่อเลือกจุดที่เหมาะสม รวมถึงทำการมีส่วนร่วมของประชาชน และหาพื้นที่ซึ่งจะต้องเวนคืนมาดำเนินการอีกด้วย
@ เร่งนโยบาย 120 กม./ชม. นำร่องปรับขับช้าแช่เลนขวาก่อน
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ได้เร่งรัดให้ ทล.ทำแผนการแปรงบประมาณปี 2563 จำนวน 115,888 ล้านบาท ไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพ และความสำเร็จ และเบิกจ่ายงบได้ตามแผนหรือเร็วกว่า ซึ่งเหลือเวลาอีก 6 เดือนเท่านั้น และไม่ให้เกิดปัญหาเบิกจ่ายงบล่าช้าเหมือนปี 2562 ที่ติดเรื่องจ่ายค่าเวนคืนมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี
นอกจากนี้ จากที่ได้ติดตามความก้าวหน้านโยบายกำหนดความเร็วของถนน 4 ช่องจราจรขึ้นไปได้ไม่เกิน 120 กม./ชม. โดยอยู่ระหว่างสำรวจเส้นทางที่เหมาะสม ซึ่งภายในเดือน ม.ค.นี้จะมีการประชุมเพื่อติดตาม โดยจะเริ่มดำเนินการกับรถขับช้าในช่องทางขวาสุดก่อน ซึ่งได้กำชับให้เน้นในเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก และจะต้องสอดรับกับนโยบายการนำยางพาราหุ้มแผงกั้นจราจร ((Rubber Fender Barrier) เพื่อจะทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เพราะหากเร่งประกาศอาจจะถูกใจคน แต่หากมีปัญหา ตนและกระทรวงคมนาคมจะตกเป็นจำเลยสังคมได้
ส่วนการนำยางพารามาใช้ในงานทางและอุปกรณ์ทางนั้น ในปี 2563 ถนนที่ก่อสร้างใหม่ ซึ่งอยู่นอกเมือง จะต้องใช้แบริเออร์ยางพาราแทนการใช้เกาะกลาง ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มการใช้ยาพาราแล้ว จะทำให้ประหยัดงบก่อสร้าง งบซ่อมบำรุงและมีความปลอดภัย ยกเว้นถนนในเขตเมือง หรือชุมชน ที่มีความจำเป็นต้องใช้เกาะกลางเพื่อทัศนียภาพที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการรื้อถนนเดิมที่มีเกาะกลางเปลี่ยนมาเป็นแบริเออร์ แต่หากจุดใดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยจะมีการปรับปรุงให้มีความปลอดภัยมากขึ้น