นายนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี เปิดเผยว่า เครือซีพีมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ หรือ Carbon Neutral ภายในปี 2573 โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยรายได้ลงร้อยละ 10 ในปี 2563 เทียบกับปีฐาน 2558
ในการนี้จึงออกประกาศรณรงค์ให้บริษัทจากทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯ เดินหน้าสู่เป้าหมายการดูดซับก๊าซเรือนกระจก โดยการปลูกต้นไม้ยืนต้นทั้งในพื้นที่หน่วยงานและในพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ได้เร่งให้ทุกบริษัทในเครือฯ ทำการสำรวจที่ดินในกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศไทย เพื่อนำที่ดินว่างเปล่าที่ยังไม่มีการทำประโยชน์มาปลูกต้นไม้ยืนต้นเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดโลกร้อน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการปลูกต้นไม้ยืนต้นเพื่อลดโลกร้อนได้ในปี 2563 ที่จะถึงนี้
ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า เราตระหนักดีว่าเครือซีพีมีส่วนร่วมในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของเครือฯ และตามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส และมุ่งพยายามควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส
ในการรณรงค์ปลูกต้นไม้ยืนต้นของเครือซีพีมีหลักการว่าต้องเป็นไม้เศรษฐกิจ เพื่อจะได้มีมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจจากมูลค่าเนื้อไม้ นอกเหนือจากประโยชน์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ด้านผลการดำเนินงานการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเครือซีพีนั้นมีความก้าวหน้าที่ระดับ 34% จากเป้าหมายที่กำหนด โดยในปี 2560 สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ลดลง 2.21% จากเป้าหมาย 10% และในปี 2561 ที่ผ่านมาลดลง 3.40% จากเป้าหมาย 10%
ทั้งนี้ เครือซีพีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการรณรงค์ให้ปลูกต้นไม้ยืนต้นในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดโลกร้อน และทำให้องค์กรก้าวสู่การเป็น Carbon Neutral ได้ในที่สุด
ในการนี้จึงออกประกาศรณรงค์ให้บริษัทจากทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯ เดินหน้าสู่เป้าหมายการดูดซับก๊าซเรือนกระจก โดยการปลูกต้นไม้ยืนต้นทั้งในพื้นที่หน่วยงานและในพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ได้เร่งให้ทุกบริษัทในเครือฯ ทำการสำรวจที่ดินในกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศไทย เพื่อนำที่ดินว่างเปล่าที่ยังไม่มีการทำประโยชน์มาปลูกต้นไม้ยืนต้นเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดโลกร้อน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการปลูกต้นไม้ยืนต้นเพื่อลดโลกร้อนได้ในปี 2563 ที่จะถึงนี้
ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า เราตระหนักดีว่าเครือซีพีมีส่วนร่วมในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของเครือฯ และตามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส และมุ่งพยายามควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส
ในการรณรงค์ปลูกต้นไม้ยืนต้นของเครือซีพีมีหลักการว่าต้องเป็นไม้เศรษฐกิจ เพื่อจะได้มีมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจจากมูลค่าเนื้อไม้ นอกเหนือจากประโยชน์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ด้านผลการดำเนินงานการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเครือซีพีนั้นมีความก้าวหน้าที่ระดับ 34% จากเป้าหมายที่กำหนด โดยในปี 2560 สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ลดลง 2.21% จากเป้าหมาย 10% และในปี 2561 ที่ผ่านมาลดลง 3.40% จากเป้าหมาย 10%
ทั้งนี้ เครือซีพีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการรณรงค์ให้ปลูกต้นไม้ยืนต้นในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดโลกร้อน และทำให้องค์กรก้าวสู่การเป็น Carbon Neutral ได้ในที่สุด