xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ทำแผนปั๊มส่งออกปี 63 “จุรินทร์” นำทัพเจาะ 18 ประเทศ พร้อมรุกตลาดออนไลน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ทำแผนเชิงรุกดันส่งออกปี 63 เตรียมจัดทริปลุยเจาะ 18 ประเทศ “จุรินทร์” นำทัพเป็นหัวหน้าเซลส์แมนเอง พร้อมใช้ช่องทางออนไลน์เพิ่มโอกาสส่งออก ปั้นผู้ส่งออกเลือดใหม่ เจาะเป็นรายกลุ่มลงถึงระดับนักศึกษา พร้อมสร้างภาพลักษณ์สินค้าไทย ดันธุรกิจบริการ และนำระบบ AI พัฒนาข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ มั่นใจปี 63 ส่งออกบวกแน่

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยถึงแผนผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการไทยในปี 2563 ว่า กรมฯ ได้เตรียมแผนเจาะตลาดเชิงลึกตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยมีกำหนดจะจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและเอกชนเดินทางไปขยายตลาดนำทีมโดยนายจุรินทร์ซึ่งเป็นหัวหน้าเซลส์แมนของประเทศ มีเป้าหมาย 16 ทริป 18 ประเทศ ได้แก่ ตลาดเดิม เช่น จีน ญี่ปุ่น เยอรมนี อังกฤษ สหภาพยุโรป ตลาดใหม่ เช่น อินเดีย ตุรกี ศรีลังกา บังกลาเทศ แอฟริกาใต้ ตลาดฟื้นฟู เช่น ตะวันออกกลาง ตลาดอาเซียนและ CLMV เช่น กัมพูชา แต่ประเทศใหญ่อย่างจีน และอินเดีย จะต้องเจาะลึกเป็นรายมณฑลและรายรัฐมากขึ้น

โดยนอกเหนือจากการเจาะตลาดเป็นรายประเทศ จะเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการส่งออก ทั้งการร่วมมือกับผู้ซื้อ นำเข้าจัดกิจกรรมกระตุ้นความต้องการสินค้าและบริการที่มีศักยภาพของไทย เพิ่มช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มการส่งออก โดยจะขยายร้าน TOPTHAI Flagship Store ในเว็บไซต์ Tmall Global นำสินค้าไทยเจาะตลาดจีน และจะขยายความร่วมมือไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น Bigbasket (อินเดีย) Amazon.com (สหรัฐฯ) Amazon.jp (ญี่ปุ่น) และ Presto Mall (มาเลเซีย) เป็นต้น รวมทั้งจะยกระดับการจัดงานแสดงสินค้า เช่น งาน STYLE งานบางกอกเจมส์ และงาน THAIFEX เพื่อดึงดูดผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ซึ่งจะส่งผลต่อการเพิ่มยอดส่งออกได้มากขึ้น

นอกจากนี้จะให้ความสำคัญต่อการพัฒนาผู้ส่งออกรายใหม่ๆ โดยพัฒนากลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม Start up กลุ่มชาติพันธุ์ และกลุ่ม Niche ให้เป็นผู้ส่งออก และจะร่วมมือกับสถาบันการศึกษา พัฒนาและเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาให้ก้าวมาเป็นผู้ส่งออกรุ่นใหม่ รวมทั้งร่วมมือกับสถาบันปัญญาภิวัฒน์ พัฒนานักค้าออนไลน์ เพื่อสร้างคนออกไปทำงานช่วยผู้ประกอบการไทยค้าขายออนไลน์

สำหรับการพัฒนาคุณภาพสินค้า จะเร่งสร้างแบรนด์ประเทศไทยด้วยการมอบตราสัญลักษณ์รับรองคุณภาพให้กับผู้ส่งออก ได้แก่ เครื่องหมาย TMark, DEMark, PM-Award, Thai Select และรางวัลด้านโลจิสติกส์ ELMA และจะนำแบรนด์ไทยเจาะตลาดเป้าหมาย เช่น จีน อินเดีย และอาเซียน ส่วนธุรกิจบริการ จะเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์, ธุรกิจบริการสุขภาพ เช่น ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ, ธุรกิจ Start up และธุรกิจโลจิสติกส์ เป็นต้น ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไทยมีศักยภาพและสามารถออกสู่ตลาดต่างประเทศได้

นอกจากนี้ยังจะให้ความสำคัญต่อการพัฒนาระบบให้บริการฐานข้อมูลด้านการค้าระหว่างประเทศด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต่อยอด DITP Business AI ให้มีประสิทธิภาพ เน้นให้สามารถใช้งานง่าย ขยายขอบเขตและความหลากหลายของฐานข้อมูล ทันต่อสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบันมากขึ้น ส่งผลให้การตัดสินใจของผู้ส่งออกมีความแม่นยำและชัดเจนยิ่งขึ้น จากข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัย

นายสมเด็จกล่าวว่า สำหรับเป้าหมายการส่งออกปี 2563 กรมฯ ได้นัดประชุมทูตพาณิชย์ในช่วงงานบางกอก เจมส์ เดือน ก.พ. 2563 และจะมีการประชุมร่วมกับภาคเอกชนในสาขาต่างๆ เพื่อประเมินการส่งออกร่วมกัน และประเมินทิศทางการส่งออกในแต่ละตลาด ก่อนที่จะนำผลสรุปมาจัดทำเป้าหมายการส่งออกของประเทศ โดยเบื้องต้นคาดว่าการส่งออกปี 2563 จะขยายตัวเป็นบวกได้ เพราะปัจจัยเสี่ยง เช่น สงครามการค้าคลี่คลายลง การออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษ (เบร็กซิต) มีความชัดเจนขึ้นแล้ว ประกอบกับกรมฯ มีมาตรการผลักดันการส่งออกอย่างเข้มข้นซึ่งจะช่วยให้การส่งออกขยายตัวได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลงานในรอบปี 2562 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมและผลักดันการส่งออกกว่า 300 กิจกรรม มีผู้ประกอบการได้รับการส่งเสริมและพัฒนากว่า 110,000 ราย สร้างมูลค่าให้แก่ประเทศประมาณ 140,000 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น