“สนธิรัตน์” เตรียมเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ม.ค. 63 ย้ำเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกเน้นโครงการที่ให้ผลประโยชน์แก่ชุมชนสูงสุดมากกว่าราคาค่าไฟ ด้านบีบีจีไอแย้มสนใจลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชน โดยมีศักยภาพที่ผลิตไฟฟ้าได้ถึง 100-200 เมกะวัตต์
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมกิจการกลุ่มบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) ว่า กระทรวงพลังงานเตรียมเปิดให้ยื่นข้อเสนอเพื่อเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากภายในเดือน ม.ค. 2563 ตั้งเป้ารับซื้อไฟฟ้า 700 เมกะวัตต์ โดยมีคณะกรรมการบริหารการรับซื้อไฟฟ้าฯ ที่มีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน มีหลักเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกโครงการที่ให้ผลประโยชน์แก่ชุมชนสูงสุดมากกว่าอัตราค่าไฟที่ถูก รวมทั้งพิจารณาเรื่องความมั่นคงเชื้อเพลิง และทำเลที่ตั้งโรงไฟฟ้า สายส่ง เป็นต้น คาดว่าจะเห็นโครงการนำร่องในลักษณะ Quick win ได้ภายใน 6 เดือนข้างหน้า
“โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนจะเปิดเป็น Bidding ดูค่าไฟฟ้าที่เหมาะสม แต่ไม่ได้แปลว่าถูกที่สุด แต่ดูถึงค่าไฟที่เหมาะสมและเกิดผลประโยชน์ชุมชน เราจะใช้ผลประโยชน์ชุมชนเป็นหลัก อย่าไปคิดว่า Bidding จะต้องถูกสุดไม่ใช่ แต่เราต้อง Balance ระหว่างราคาที่จะรับซื้อไฟกับผลประโยชน์ชุมชน กรณีผลประโยชน์ชุมชนให้คะแนน 60% เอาตัวนี้เป็นตัวตั้ง ถ้าใครทำให้ชุมชนนั้นพ้นความยากจนได้ก็มีโอกาสมากกว่า” นายสนธิรัตน์กล่าว
จากการตรวจเยี่ยมกิจการกลุ่มบางจากนั้น โครงการ T77 Community (อ่อนนุช) ของ บมจ.บีซีพีจี ที่มีการนำบล็อกเชนมาใช้ในการแลกเปลี่ยนซื้อขายไฟฟ้า ซึ่งก็ได้มีโอกาสรับฟังข้อเสนอแนะของภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายนโยบาย เพื่อที่จะสามารถผลักดันให้โครงการแลกเปลี่ยนซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าวเดินหน้าต่อไปได้
ด้านนายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI กล่าวว่า บริษัทสนใจที่จะเสนอเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน โดยมีเครือข่ายสหกรณ์ฯ ที่มีความพร้อมอยู่ราว 100 กว่าชุมชน ซึ่งมีศักยภาพที่ทำโรงไฟฟ้าชุมชนได้ราว 100-200 เมกะวัตต์ (MW) โดยมีขนาดกำลังการผลิตแต่ละโรงไม่เกิน 5 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนเมกะวัตต์ละ 100 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือและกลาง โดยดูความพร้อมสายส่งเป็นหลัก