“ขสมก.” เคลียร์สหภาพฯ ปรับแผนฟื้นฟู เร่งสรุปเสนอบอร์ด ม.ค. 63 ก่อนชง ครม.เปิด E-Bidding หวั่นเช่าล็อตใหญ่ 2,511 คันเข้าข่าย PPP เร่งถาม สคร.เล็งซอย 2-3 สัญญา พร้อมเสนอรัฐอุดหนุน PSO ปีละ 2,500 ล้านไม่น้อยกว่า 5 ปีช่วงเปลี่ยนผ่าน
นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยถึงการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.ว่า จะมีการปรับเปลี่ยนจากแผนเดิมที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2562 ใน 2 เรื่อง คือ การจัดหารถโดยสารใหม่ 3,000 คัน และเส้นทางเดินรถ ซึ่งเดิมจะมีการซื้อ/เช่า และปรับปรุงรถเก่า เปลี่ยนเป็นเช่ารถพร้อมบริการซ่อมบำรุง โดยจ่ายตามระยะทาง (กม.) ที่บริการจริง โดยคนขับรถยังเป็นพนักงาน ขสมก.ทุกคน
ขณะนี้ ขสมก.ได้จัดซื้อรถ NGV จำนวน 489 คันแล้ว เหลือที่จะเช่าอีก 2,511 คัน โดยจะกำหนดคุณภาพ คุณลักษณะของรถที่ต้องการ จัดทำทีโออาร์ กำหนดราคากลาง เปิดประมูล E-Bidding ให้เอกชนเสนอค่าเช่าแข่งขัน โดยอาจจะแบ่งเป็น 3 สัญญาเพื่อลดความเสี่ยง โดยจะเป็นเอกชนรายใหญ่ที่มีความมั่นคงทางการเงิน มีทุนในการดำเนินการและมีหลักประกันในการทำสัญญา และประกันคุณภาพ มีเงื่อนไขการปรับที่ชัดเจน โดย ขสมก.บริหารการเดินรถเอง ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับการจ้างเอกชนเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง ในขณะเดียวกัน สอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กรณีการประมูลเช่ารถจากเอกชนนี้จะเข้าข่ายการร่วมทุนระหว่างรัฐเอกชน (PPP) หรือไม่
ทั้งนี้ แผนฟื้นฟูเดิมประเมินว่าฐานะทางการเงิน Ebitda จะเป็นบวกในปี 2566 โดยมีการซื้อ/เช่ารถใหม่ ขึ้นค่าโดยสาร ส่วนแผนใหม่ เปลี่ยนเป็นเช่ารถ เก็บค่าโดยสารเหมา 30 บาททั้งวัน ประเมินว่าในช่วง 5 ปีแรก หรือไม่เกิน 10 ปี ขสมก.จำเป็นขอรับการอุดหนุนบริการเชิงสังคม (PSO) จากรัฐบาลไปก่อนปีละประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับการอุดหนุน PSO ในปัจจุบัน
“รายได้ที่จะเข้ามาต้องขึ้นกับจำนวนผู้โดยสารด้วย และอนาคตยังต้องดูเรื่องรถไฟฟ้าที่มีการขยายเส้นทาง ไปรอบเมืองว่าจะส่งผลต่อจำนวนคนนั่งรถเมล์อย่างไรเพราะประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น ซึ่งการเช่ารถระยะ 7 ปีเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในอนาคต รถเมล์วิ่งสั้นลง รถขนาด 12 เมตรไม่คล่องตัวก็สามารถปรับเป็นรถที่เล็กลงได้”
ขสมก.มีหนี้ประมาณกว่า 1 แสนล้านบาท มีภาระดอกเบี้ยประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันรถปรับอากาศมีต้นทุนการวิ่งที่ 50 บาท/กม./คัน หากหักดอกเบี้ย 11 บาท/กม.ออก จะเหลือต้นทุนที่ 39 บาท/กม./คัน
นายสุระชัยกล่าวว่า คาดว่าจะสรุปแผนฟื้นฟูที่ปรับปรุงเสนอคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก.ในเดือน ม.ค. 2563 จากนั้นจะเสนอกระทรวงคมนาคม และสภาพัฒน์ฯ และเสนอ ครม.พิจารณา คาดว่าจะใช้เวลา 3-6 เดือน จากนั้นจึงจะเป็นขั้นตอนการจัดหารถ 1-2 ปีกว่าจะครบ 2,511 คัน ซึ่งในช่วงเปลี่ยนผ่านกว่ารถใหม่เข้ามาจะต้องใช้รถเก่าที่มีอยู่ร่วมกันไปก่อน
ส่วนการปรับปรุงเส้นทางเดินรถเพื่อลดการทับซ้อน จะปรับเส้นทางให้สั้นลงเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้า ผลประโยชน์ที่ตามมาคือ ทำให้ลดจำนวนรถบนถนน ช่วยลดปัญหาจราจร ปัญหาอุบัติเหตุและมลพิษจะลดลงไปด้วย ซึ่งการปฏิรูปเส้นทางรถ ขสมก. แผนเดิม 137 เส้นทาง ล่าสุดจะปรับเป็น 110 เส้นทาง สอดคล้องกับนโยบายค่าโดยสาร 30 บาทตลอดวัน เส้นทางจะปรับวิ่งสั้นลงจาก 30-40 กม. เหลือไม่เกิน 20 กว่ากม. ลดการทับซ้อน แต่ละถนนจะมีรถวิ่งไม่เกิน 3 สาย การวิ่งจะทำความถี่ได้ ผู้โดยสารเดินทางได้เร็วเพราะไม่ต้องเสียเวลารอรถนาน
@มั่นใจเช่ารถได้รถคุณภาพดีบริการประชาชน
นายสุระชัยกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาว่าจะใช้รถโดยสารแบบไหน ซึ่งในการเปิดประมูลเช่ารถโดยสารนั้น TOR จะกำหนดรถโดยสารที่มีคุณลักษณะ คุณภาพที่ดี แม้ว่าราคาค่าเช่าจะเป็นตัวแข่งขัน ซึ่ง ขสมก.จะต้องกำหนดTOR ที่มีประสิทธิภาพ มีเงื่อนไขการกำกับสัญญา มาตรการ บทปรับกรณีผิดเงื่อนไขต่างๆ แต่ที่ผ่านมาการประมูลซื้อรถจะใช้ราคาเป็นตัวแข่งขัน ทำให้มองว่าราคาถูกจึงจะชนะ รายที่มีรถดี ราคาแพงจะไม่ได้งาน ขสมก.ก็ได้รถที่มีปัญหามาให้บริการ ดังนั้นการเช่าปัญหาจะหายไปส่วนหนึ่ง เพราะคนที่จะเอารถมาให้เช่าจะต้องเสนอรถที่มีคุณภาพดี เพื่อจะได้วิ่งได้นาน ซ่อมน้อย
นอกจากนี้ ได้ทำความเข้าใจรายละเอียดที่พนักงานกังวลกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) ที่ก่อนหน้านี้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อน ซึ่งปัจจุบันมีพนักงาน 1.3 หมื่นคนเกษียณอายุก่อนกำหนด เป็นไปตามแผนเดิมไม่เปลี่ยน ขณะที่แต่ละปีมีพนักงานเกษียณประมาณ 600-700 คนต่อปีอยู่แล้ว ดังนั้นจะจัดประชุมกลุ่มย่อยกับผู้มีส่วนได้เสียอื่น เช่น ผู้โดยสาร ประชาชนใช้รถใช้ถนน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนักวิชาการแทน
ด้านนายบุญมา ป๋งมา ประธานสหภาพฯ ขสมก.กล่าวว่า จากที่รับฟังข้อมูล สหภาพฯ ไม่ขัดข้องเรื่องการเช่ารถ 2,511 คัน โดยขอรถมีคุณภาพดี ซึ่งก่อนหน้านี้สหภาพฯ กังวลเรื่องทุนเข้ามาบริหารจะกระทบต่อประชาชนที่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ส่วนการกำหนดเส้นทางขอให้ตัวแทนสหภาพฯ เข้าไปร่วม