ละมุน เบบี้ รักษาตำแหน่งผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกสำหรับแม่และเด็ก โตถึง 34% จาก 3 สินค้าขายดี โฟมอาบน้ำ น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างขวดนม ปรับกลยุทธ์รุกตลาด Modern Trade เพิ่ม Distribution ให้เข้าถึงคุณแม่ยุคใหม่มากขึ้น ปฏิวัติวงการเปิดตัวถุงเก็บน้ำนมลดกลิ่นหืนเอาใจแม่สายปั๊ม ผลตอบรับดีมาก โกยส่วนแบ่งการตลาดสวนกระแสภาวะเศรษฐกิจ
ละมุนเบบี้ ก้าวสู่ปีที่ 10 อย่างมั่นคง ทุบสถิติมูลค่าการตลาด 130 ล้านบาทในปีนี้ตามคาดจากการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เกต ลุยต่อเนื่องก้าวกระโดดมั่นใจรายได้ถึง 200 ล้านบาทในปี 2020 จากการที่มี R&D และ Supply Chain ที่มีความพร้อมสูงเตรียมนำเสนอสินค้าใหม่อีก 2 รายการในปี 2020 คือ Spray กันยุง และยาสีฟันสูตร Non Fluoride สำหรับเด็กโต มั่นใจพ่อแม่ยุคใหม่หาข้อมูลตามเทรนด์โลก
เนตรนพิศ รุ่งธนเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ละมุนเบบี้ จำกัด กล่าวถึงกระแสผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกว่าละมุนมั่นใจด้วยความเป็น Brand แรกๆ ของไทยที่เข้ามาเปิดตลาด Organic อย่างจริงจังตั้งแต่ยังไม่เป็นกระแส พร้อมยืนยันจุดแข็งที่ใช้เฉพาะส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ 100% เท่านั้น ไม่กลัวแบรนด์ใหญ่หรือแบรนด์ใหม่ๆ กระโดดลงมาเล่นตลาดนี้เพราะเชื่อว่าเราคือ Number one จากการวางมาตรฐานความเป็นออร์แกนิกของละมุนไว้ว่าผลิตภัณฑ์ต้องมีแหล่งต้นกำเนิดจากธรรมชาติในทุกส่วนผสม รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ต้องมีใบรับรองและผ่านการทดสอบคุณภาพว่าไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ไม่มีน้ำหอม และสารเคมี กว่า 10 ปีที่บุกเบิกเข้ามาในตลาดนี้ จับกลุ่มแม่ในเมืองที่มีลูกน้อยลงแต่กำลังการจ่ายสูงจนละมุนไม่กลัวคู่แข่งเพราะคิดว่าเป็นการส่งเสริมตลาดให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น และยิ่งสร้างกระแสสินค้า Organic ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และทำให้เราต้องยิ่งรักษาคุณภาพเร่งพัฒนาสินค้าไกลจากแบรนด์อื่นๆ ส่งผลให้ละมุนเติบโตต่อเนื่อง โดย 2-3 ปีให้หลังมานี้หากเทียบกับตลาดรวมสินค้าเด็กที่มีมูลค่ากว่า 5,800 ล้านบาท ติดลบที่ -1.1% แบรนด์ “ละมุน” สามารถเติบโตมากกว่าตลาดรวม อยู่ที่ 34%
ปัจจุบันสินค้าของละมุนเบบี้ Focus เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ 1. สินค้าหลักขายดีตลอดกาล All-time Best Seller ไม่ใช่แค่ Must Try แต่ละมุนมั่นใจว่าเป็น Must Have Item ที่แม่ทุกคนต้องใช้ คือ โฟมอาบน้ำสระผม น้ำยาล้างขวดนม น้ำยาซักผ้า เป็นสินค้าที่ขายดีสูงสุดตลอดกาล เป็นสินค้าที่ทำให้แม่ละมุนรู้จักเรามากที่สุดด้วยคุณภาพสินค้าที่แตกต่างอย่างชัดเจนกับผลิตภัณฑ์อื่นที่มีอยู่ในท้องตลาด ทำให้เมื่อได้ลองใช้แล้วเกิดความประทับใจ กลับมาซื้อซ้ำ รวมถึงเกิดการบอกต่อในวงกว้าง หรือเอาไปรีวิวต่อทำให้ยอดขายสินค้ากลุ่มนี้โตขึ้น 100%
นอกจากนี้ เรามีการนำสินค้าขายดีมาทำ Welcome Baby Set ออกมาสำหรับคุณแม่มือใหม่โดยเฉพาะ นอกจากกลุ่มคุณแม่ที่ซื้อไปใช้เองแล้ว ก็ยังรวมถึงลูกค้าอีกกลุ่มที่ไม่ได้มีลูกแต่นิยมซื้อไปเยี่ยมแม่ลูกอ่อนตามโรงพยาบาล ทั้งหมดนี้เมื่อคุณแม่มือใหม่ท้องแรกได้ลองซื้อ Set นี้ก็ต้องกลับมาซื้อซ้ำ หรือพอคลอดลูกไปแล้วเจอปัญหาผดผื่นซึ่งเป็นปัญหาที่เกือบทุกบ้านเจอ เพราะเด็กแพ้สารเคมีลองเปลี่ยนมาใช้ละมุนเป็นทางเลือกก่อนต้องพาไปหาหมอ เพราะบางครั้งอาจแพ้อาหารหรือปัจจัยอื่นๆ อันนั้นต้องให้คุณหมอดูแล แต่ถ้าเปลี่ยนน้ำยาซักผ้า หรือโฟมอาบน้ำแล้วจบแม่ก็สบายใจลูกก็ Happy
2. Strong Growth สินค้าที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่น สเปรย์ทำความสะอาดของใช้เด็ก ยาสีฟันที่ไม่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ใช้ได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน แป้งเด็กที่ไม่มีส่วนผสมของ Talcum น้ำยาล้างผักและผลไม้ ที่ตอบรับ Nature and Hygienic trend ของโลกตอนนี้ หรือแผ่นแปะกันยุงที่เราเพิ่งได้รางวัล Mom Choice’s Award มาเมื่อเดือนที่ผ่านมาจากการโหวตของคุณแม่ สินค้ากลุ่มนี้แม้จะไม่ได้มีสัดส่วนการขายที่สูงมากแต่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องสูงมาก เป็นสินค้าที่มีอนาคตในการเพิ่ม Basket Size ของครอบครัวและคนรักสุขภาพ
3. Rising Star สินค้าดาวรุ่ง มาแรง ผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่ให้นมของ Mum ต้องมี โดยมีดาวเด่นได้แก่ถุงเก็บน้ำนมที่มีจุดขายโดดเด่น ตอบโจทย์ทุกความต้องการของแม่ให้นม แตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่ตามท้องตลาดอย่างชัดเจน ซึ่งละมุนได้จับเทรนด์ “การเลี้ยงลูกให้นมแม่” มานานแล้ว เป็น Global Trend สินค้าขาดตลาดตั้งแต่เดือนแรกหลังจากเปิดตัวได้เพียง 15 วัน โดยตัวถุงเก็บน้ำนมนี้ต่อยอดมาจากที่ประคบหน้าอก บาล์มทาหัวนมและริมฝีปาก ผ้าคลุมให้นมลูก และกระเป๋าเก็บอุณหภูมิ ละมุนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ความเป็นแม่ ตอบโจทย์แม่ยุคใหม่ เพราะนมแม่คือ Organic Love บริสุทธิ์ที่สุด สร้างภูมิคุ้มกัน เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางกายและเสริมสายใยความรักแม่ลูกได้อย่างเปี่ยมล้น การที่เราจับเทรนด์นี้และผลิตออกมา แรกก็เกิดสินค้าขาดตลาดเกือบเดือน สร้างปรากฏการณ์ Happy Crisis Management จนต้องทำขนาด 5 ออนซ์ และแบบ 3 in 1 เพื่อเอาใจคุณแม่กลุ่มนี้โดยเฉพาะ ซ้ำยังสร้างความฮือฮาด้วยการออกถุงเก็บน้ำนม Limited Edition เป็น Festive Holiday Design เพื่อเป็นกำลังใจให้คุณแม่มีความสุขกับการปั๊มนมในทุกๆ วัน
นอกจากนี้ จะสังเกตได้จากเวลาออกงานอย่างงาน Baby Fair ต่างๆ ทุกครั้งยอดขายเพิ่มขึ้นทุกครั้ง ลูกค้าใหม่เข้ามาเฉลี่ยครั้งละ 3,000-5,000 คน ยอดขายเฉลี่ยต่อบิลอยู่ที่ 2,000 บาท โดยลูกค้าประจำหรือแม่ใหม่ซื้อยกเซตมักซื้อบิลใหญ่ครั้งละไม่ต่ำกว่าหมื่นบาท หลายคนมาเพราะเพื่อนที่มีลูกมาก่อนแนะนำว่าต้องละมุนเท่านั้น รวมถึงลูกค้าต่างชาติที่อยู่เมืองไทยหาข้อมูลพูดคุยตลอดเวลาว่าต้องละมุนเบบี้เท่านั้น เราเริ่มต้นจากการทำธุรกิจจากแม่ที่ต้องการแก้ปัญหาผดผื่นคัน จนลองมาทำขายแล้วเกิดกระแสบอกต่อ ดาราเซเลบและลูกค้ารีวิวให้เองเพราะความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่มีมาอย่างยาวนานและคุณภาพของสินค้าที่แตกต่าง
ตอกย้ำความสำเร็จด้วยรางวัลมหาชนจาก ETDA สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.); Electronic Transactions Development Agency หรือ ETDA และ Sticker กันยุงที่คุณแม่ Vote มาทาง Amarin Baby & Kids ละมุนเบบี้มีจำหน่ายในแผนกเด็กที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล โรบินสัน เดอะมอลล์ แต่ช่องทางที่นิยมสั่งสินค้ามากที่สุดก็คือออนไลน์เพราะต้องการความสะดวกและรวดเร็ว ทั้งจาก www.lamoonbaby.com Facebookและ Line@ Lamoonbaby LazadaShopee แต่ละมุนก็ขยาย Distribution ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่มากยิ่งขึ้นผ่าน Supermarket ชั้นนำ เช่น Tops Gourmet Big C Villa รวมถึงร้านขายยา Boots ที่และ Kingpower ที่ตอบโจทย์ลูกค้าต่างชาติหรือชาวจีนที่นิยมสินค้าเด็กจากไทยและญี่ปุ่น ปีนี้มีสัดส่วนการขายใน Modern trade และตัวแทน 50% และอีก 50% ผ่านช่องทางออนไลน์และงาน Fair ต่างๆ
เนตรนพิศยังกล่าวถึงการทำตลาดในต่างประเทศ ปัจจุบันได้ส่งออกผลิตภัณฑ์ผ่านตัวแทนจำหน่ายไปประมาณ 8 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม ลาว กัมพูชา สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน ตอนนี้ต่างประเทศมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 20% เทียบกับในประเทศ แต่เนื่องจากปีหน้าเราจะเข้าจีนแบบเต็มตัวซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่และมีศักยภาพค่อนข้างสูง คาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้จากการส่งออกในปีหน้าเพิ่มขึ้น 300% และแผนที่จะเข้าไปเล่นตลาดจีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ รวมถึงกลุ่มอาหรับและตะวันออกกลางอย่างเต็มตัว
สำหรับปี 2020 ทำให้บริษัทตั้งเป้ารายได้การเติบโตไว้ประมาณ 54% และตั้งเป้าผลักดันรายได้รวมเพิ่มเป็นปีละ 200 ล้านบาท โดยหัวใจหลักจะมาจากการพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้ามากขึ้น และการทำการตลาดที่เข้าถึงคุณแม่ตั้งแต่เตรียมพร้อมการตั้งครรภ์ และขยายอายุให้ใช้ต่อเนื่องนานขึ้นจนลูกโต ทั้งนี้ เรายังเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ทั้งการออกผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ refill เพื่อลดปริมาณขยะและพัฒนาแพกเกจจิ้งให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตของลูกและเพื่อความยั่งยืนของโลก