“พาณิชย์” โชว์ผลงานโครงการประกันรายได้ เกษตรกรปาล์มน้ำมัน ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ได้รับประโยชน์แล้ว 1.69 ล้านครัวเรือน รับเงินส่วนต่างรวม 1.84 หมื่นล้านบาท หลัง “จุรินทร์” ผลักดันโครงการได้ครบตามเป้า 5 ชนิดภายในปีนี้ เผยปาล์มน้ำมันงวดที่ 3 อาจไม่ต้องจ่ายส่วนต่างหลังราคาพุ่ง ส่วนข้าวโพดรอจ่ายส่วนต่างงวดแรก 20 ธ.ค.นี้
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการประกันรายได้สินค้าที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงพาณิชย์ 4 ชนิด คือ ปาล์มน้ำมัน ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สามารถผลักดันโครงการได้ครบทุกตัวตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการทำให้สำเร็จภายในปี 2562 และหากรวมสินค้ายางพารา ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ก็จะถือว่าโครงการประกันรายได้พืชเกษตร 5 ชนิดที่เป็นนโยบายของรัฐบาลชุดนี้สามารถทำได้ครบทุกตัวแล้ว
หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการ มีเกษตรกรได้รับการโอนเงินส่วนต่างแล้วจากโครงการประกันรายได้พืชเกษตร 4 ชนิด คือ ปาล์มน้ำมัน ข้าว ยางพารา และมันสำปะหลัง รวม 1,692,576 ครัวเรือน มีวงเงินที่จ่ายส่วนต่างชดเชยให้แก่เกษตรกรรวม 18,468 ล้านบาท แยกเป็นปาล์มน้ำมัน 543,543 ครัวเรือน คิดเป็นเงิน 2,596 ล้านบาท ข้าว 542,854 ครัวเรือน คิดเป็นเงิน 13,051 ล้านบาท ยางพารา 564,176 ครัวเรือน คิดเป็นเงิน 1,898 ล้านบาท และมันสำปะหลัง 42,003 ครัวเรือน คิดเป็นเงิน 924 ล้านบาท
ทั้งนี้ เฉพาะสินค้าข้าว กรมฯ ได้ปรับระยะเวลาการพิจารณาการชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงใหม่ จากเดิมจะพิจารณาทุกๆ 15 วัน เป็นพิจารณาทุก 7 วัน เพื่อให้ราคาสะท้อนกับราคาที่แท้จริง เพราะบางช่วงราคาข้าวปรับขึ้นลงเร็ว ซึ่งจะทำให้เกษตรกรไม่เสียโอกาสจากการได้รับเงินชดเชยส่วนต่าง โดยงวดที่ 5 จะจ่ายส่วนต่างให้แก่เกษตรกรที่แจ้งเพาะปลูกวันที่ 1-7 ธ.ค. 2562 จำนวน 4 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 2,453.59 บาท, ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 1,661.08 บาท, ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 517.47 บาท และข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 404.75 บาท ส่วนข้าวเปลือกเหนียว ไม่จ่ายเพราะราคายังสูงกว่าราคาประกัน
ส่วนปาล์มน้ำมัน มีแนวโน้มว่าการจ่ายเงินส่วนต่างในงวดที่ 3 ในช่วงปีใหม่รัฐไม่ต้องจ่ายส่วนต่างในงวดนี้ เพราะขณะนี้ราคาตลาดเกิน 4 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ซึ่งสูงกว่าราคาประกันรายได้ ทำให้เกษตรกรสามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่คุ้มต้นทุนอยู่แล้ว
ขณะที่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ได้มีมติให้ความเห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด โดยประกันรายได้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กก.ละ 8.50 บาท ที่ความชื้น 14.5% ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ ปลูกตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2562 เป็นต้นไป โดยจะนำเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาในวันที่ 11 ธ.ค. 2562 และหาก ครม.อนุมัติจะจ่ายเงินส่วนต่างงวดแรกได้ทันทีในวันที่ 20 ธ.ค. 2562