กรมเจ้าท่าเซ็น MOU ผู้ประกอบการเรือโดยสารปรับรูปแบบให้สิทธิลดหย่อนค่าโดยสารผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ใหม่ เป็นใช้บัตรประชาชนแทนการใช้บัตรลดหย่อนตามเดิม เริ่ม 5 ธ.ค.นี้ เพิ่มความสะดวก รับการเป็นสังคมผู้สูงอายุของไทย
วันนี้ (3 ธ.ค.) นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมเจ้าท่า (จท.) กับผู้ประกอบการเรือโดยสาร สมาคมเรือไทยและผู้ประกอบการเรือโดยสารประจำทางในแม่น้ำเจ้าพระยา คลองแสนแสบ คลองภาษีเจริญ เรือข้ามฟากในแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในการให้สิทธิลดหย่อนค่าโดยสารเรือแก่ผู้สูงอายุ (ผู้มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป) โดยสามารถใช้สิทธิ์โดยแสดงบัตรประจำตัวประชาชน ลดค่าเรือโดยสารครึ่งราคา รวมกว่า 30 ท่าเรือ มีผลตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคมเป็นต้นไป
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมเจ้าท่าได้อำนวยความสะดวกในการตรวจสอบสิทธิและออกบัตรให้แก่ผู้สูงอายุเพื่อใช้แสดงสิทธิลดหย่อนค่าโดยสารเรือประจำทาง โดยได้ระบุเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตให้เรือกลเดินประจำทางในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองแสนแสบในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้สิทธิลดหย่อนค่าโดยสารเรือให้แก่ผู้สูงอายุ (ผู้มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป) ซึ่งเป็นไปตามที่พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 มาตรา 11(6) ได้กำหนดให้มีการช่วยเหลือค่าโดยสารยานพาหนะแก่ผู้สูงอายุตามความเหมาะสม
จากข้อมูลเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2562 ปรากฏว่ามีจำนวนผู้สูงอายุที่มีผู้มีบัตรลดหย่อนค่าโดยสารทั้งสิ้น 8,780 ราย ซึ่งจากข้อมูลกรมกิจการผู้สูงอายุ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 พบว่ามีจำนวนผู้สูงอายุในเขตกรุงเทพมหานครทั้งสิ้น 1,061,753 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกๆ ปี
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุที่ใช้สิทธิลดหย่อนค่าโดยสาร กรมเจ้าท่าจึงปรับปรุงรูปแบบการใช้สิทธิลดหย่อนค่าโดยสารเรือแก่ผู้สูงอายุ มีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยสามารถใช้บัตรประชาชนในการรับสิทธิลดหย่อนค่าโดยสารเรือประจำทาง เช่น เรือโดยสารคลองแสนแสบ เรือด่วนเจ้าพระยา และเรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา ตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตเรือกลเดินประจำทาง แทนรูปแบบเดิมที่ต้องใช้บัตรลดหย่อนค่าโดยสารที่ออกให้โดยกรมเจ้าท่า ซึ่งบัตรลดหย่อนค่าโดยสารมีอายุ 5 ปี ผู้สูงอายุต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อมาทำบัตรใหม่เมื่อครบกำหนด
“บัตรลดหย่อนเดิม ผู้สูงอายุจะต้องเดินทางมาทำบัตรที่สำนักมาตรฐานทะเบียนเรือ และศูนย์บริการร่วมกระทรวงคมนาคม ซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องสถานที่ และจุดให้บริการที่ไม่ทั่วถึง อีกทั้งต้องใช้รูปถ่าย ขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูปประกอบการทำบัตร เกิดภาระค่าใช้จ่าย และเมื่อบัตรครบอายุ 5 ปีต้องเดินทางมาทำบัตรใหม่ ทำให้เกิดความยุ่งยาก”
