กรมเจ้าท่าถกยกระดับเรือด่วนเจ้าพระยาต่อเรือใหม่ลำตัวคู่ Catamaran ทันสมัย และประหยัดพลังงาน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก 6 ลำ นำร่องบริการเชื่อมท่าเรือที่มีรถไฟฟ้า “ม่วง, น้ำเงิน, เขียว” จากพระนั่งเกล้า-สาทร เริ่มให้บริการปี 62
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ได้ประชุมหารือ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เพื่อวางแผนพัฒนาการเดินเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยารูปแบบใหม่ อันเป็นการพัฒนาระบบคมนาคมการขนส่งผู้โดยสารทางน้ำให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตปัจจุบัน และสามารถเชื่อมต่อกับระบบขนส่งทางราง (รถไฟฟ้า)
ปัจจุบันบริษัทฯ ให้บริการเดินเรือ ตั้งแต่ท่าเรือปากเกร็ดถึงท่าเรือวัดราชสิงขร มีเรือให้บริการ 4 ประเภท ได้แก่ เรือโดยสารประจำทาง (ไม่มีธง) เรือด่วนพิเศษธงส้ม เรือด่วนพิเศษธงเหลือง และเรือด่วนพิเศษธงเขียว มีเรือที่ใช้งานอยู่ทั้งสิ้น 59 ลำ เป็นแบบเรือ mono hull (ลำตัวเดี่ยว) ตัวเรือทำด้วยไม้ตะเคียน มีทั้งเรือโดยสาร 1 เครื่องยนต์ และเรือโดยสาร 2 เครื่องยนต์
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนจะทำการยกระดับพัฒนาเรือโดยสารฯ ให้เป็นเรือลำตัวคู่ Catamaran วัสดุตัวเรือทำด้วยอะลูมิเนียม มีการออกแบบที่ก่อให้เกิดคลื่นน้อย และประหยัดพลังงา นมีความสะดวกสบายและทันสมัย มีความปลอดภัย มีระบบติดตามเรือ (GPS) และระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในเบื้องต้น บริษัทจะสร้างเรือจำนวน 6 ลำเพื่อให้บริการตั้งแต่ท่าเรือพระนั่งเกล้า ถึงท่าเรือสาทร
เรือโดยสารรูปแบบใหม่นี้จะให้บริการรับส่งผู้โดยสารจำนวน 10 ท่าเรือ ซึ่งเป็นท่าเรือมีระบบขนส่งเชื่อมต่อทางราง เช่น ท่าเรือพระนั่งเกล้า (รถไฟฟ้าสายสีม่วง) ท่าเรือบางโพ (รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน) ท่าเรือราชินี (รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน) และท่าเรือสาทร (รถไฟฟ้าสายสีเขียว) ซึ่งระยะเวลาเรือโดยสารรูปแบบใหม่จะให้บริการเดินเรือตั้งแต่เวลา 06.30-19.00 น. จำนวน 44 เที่ยว/วัน ความถี่ในการเดินเรือประมาณ 20-30 นาที /เที่ยว ซึ่งสามารถประหยัดเวลาเดินทางจากท่าเรือต้นทางถึงท่าเรือปลายทาง จากปกติใช้เวลาประมาณ 45 นาที ทำให้ลดลงเหลือเวลาประมาณ 30 นาที ประหยัดเวลาได้ประมาณ 10-15 นาที มีความสะดวกและรวดเร็วเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ เรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยารูปแบบใหม่จะใช้เวลาในการต่อสร้างเรือประมาณ 8-10 เดือน พร้อมรองรับการต่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 และต่อเชื่อมกับรถไฟฟ้า BTS ที่ท่าเรือสาทรอีกด้วย โดยกรมเจ้าท่าจะกำหนดอัตราค่าโดยสารให้มีความเหมาะสม
“กรมจ้าท่าได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการพัฒนาเรือโดยสารในรูปแบบใหม่ ซึ่งจะเป็นการยกระดับเรืออันจะเป็นการยกระดับเรือโดยสารให้มีความทันสมัย สะดวก ปลอดภัย พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่สำคัญยังก่อให้เกิดความปลอดภัยอย่างสูงสุดต่อไป” นายจิรุตม์กล่าว