“พาณิชย์”จัดทำ“ดัชนีราคาผู้บริโภคออนไลน์” หวังใช้สะท้อนอัตราเงินเฟ้อได้ดีขึ้น

“พาณิชย์”จัดทำ “ดัชนีราคาผู้บริโภคออนไลน์” จัดเก็บข้อมูลราคาสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ จากเดิมเก็บราคาจากห้าง ร้านค้าปลีกและตลาดสด หวังให้สะท้อนราคาสินค้าและบริการที่แท้จริง หลังพฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลงไปมาก เผยจะทำให้รู้ความเคลื่อนไหวของราคาได้ชัดเจนขึ้น ส่วนระยะยาวจะรวมเข้ากับการคำนวณเงินเฟ้อ ทำให้การสำรวจเงินเฟ้อมีความสมบูรณ์มากขึ้น

นางสุรีย์พร สหวัฒน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค.ได้เดินหน้าจัดทำ “ดัชนีราคาผู้บริโภคออนไลน์” โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดเก็บข้อมูลราคาสินค้า เพื่อใช้ในการคำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคให้สะท้อนพฤติกรรมการบริโภคและรูปแบบการบริโภคของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไป โดยได้เพิ่มแหล่งจัดเก็บราคา จากเดิมที่จัดเก็บราคาโดยตรงจากแหล่งจำหน่ายในพื้นที่ เช่น โมเดิร์นเทรด ร้านค้าปลีก และตลาดสด เป็นการเก็บราคาจากแหล่งร้านค้าออนไลน์เพิ่มเข้ามา

ทั้งนี้ การดำเนินการมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยในด้านการจัดทำโครงสร้างน้ำหนัก กองดัชนีเศรษฐกิจการค้าได้ดำเนินการสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภคในการใช้จ่ายสินค้าและบริการออนไลน์ครอบคลุม 76 จังหวัดและกรุงเทพฯ รวมทั้งได้ศึกษาพฤติกรรมการบริโภคออนไลน์ผ่านช่องทางอื่นๆ ของหน่วยงานต่างๆ เช่น การสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน (สำนักงานสถิติแห่งชาติ) และการสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA)

ส่วนด้านการจัดเก็บข้อมูลราคา ได้ใช้วิธีการ Online Web Scraping มาช่วยในการทำงาน ซึ่งส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้นเป็นอย่างมาก โดยในขณะนี้ อยู่ระหว่างการศึกษาลักษณะความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าออนไลน์และออฟไลน์ว่ามีลักษณะแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

“การพัฒนาดัชนีราคาผู้บริโภคออนไลน์ จะส่งผลให้การติดตามสถานการณ์ด้านราคาของประเทศมีความถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยในระยะสั้น CPI-Online จะเป็นเครื่องชี้วัดทางเลือกเพื่อสนับสนุนให้การวิเคราะห์และอธิบายความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและบริการเป็นไปอย่างรอบด้านและสอดคล้องกับพฤติกรรมในปัจจุบัน และในระยะต่อไป ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะได้รับการปรับปรุงให้ครอบคลุมพฤติกรรมการบริโภคทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยใช้ CPI-Online เป็นแนวทางในการปรับปรุง ซึ่งจะทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภค มีความสมบูรณ์และสอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนมากยิ่งขึ้น”นางสุรีย์พรกล่าว