“บีทีเอส”พร้อมตอกเข็มรถไฟฟ้า”สายสีชมพู”ต่อขยาย เข้าเมืองทองธานีต้นปี 63 มั่นใจเสร็จพร้อมสายหลัก(แคราย-มีนบุรี) เปิดปลายปี 64 เผยล่าสุด EIA ผ่านฉลุย ส่วนสีเหลืองต่อขยาย “ผู้ว่าฯรฟม.”เผยผลกระทบสัญญาBEM สรุปในธ.ค.นี้
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) ว่า อยู่ระหว่างรอพิจารณารายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้มีข้อกังวลในเรื่องการซ่อมบำรุงช่วงที่สถานีรถไฟฟ้าอยู่ใกล้กับทางด่วนขั้นที่ 2 (ศรีรัช) ซึ่งการหารือได้ข้อยุติร่วมกันแล้ว หากผ่านคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) จะมีการเจรจาในการทำสัญญาแนบท้ายสัญญาและเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ และลงนามสัญญากับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดหวังว่าจะเริ่มต้นก่อสร้างได้ในช่วงต้นปี 2563 ซึ่งจะสามารถเร่งรัดให้แล้วเสร็จพร้อมกับเส้นทางหลัก (ช่วงแคราย-มีนบุรี) ที่ปัจจุบันการก่อสร้างมีความก้าวหน้าไปมากแล้ว เพื่อให้เปิดให้บริการพร้อมกันตลอดทั้งสายหลักและส่วนต่อขยายในช่วงปลายปี 2564 ซึ่งจะทำให้การเดินทางของผู้โดยสารมีความสะดวกมากที่สุด
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) ส่วนต่อขยายจากสถานีแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึงแยกรัชโยธินนั้น การเจรจาเงื่อนไขต่างๆ กับ รฟม.จบแล้ว อยู่ระหว่างรอ รฟม.พิจารณากรณีที่อาจจะมีผลต่อสัญญาสัมปทานสายสีน้ำเงิน ซึ่งหากมีเงื่อนไขที่กระทบต่อข้อตกลงที่ได้เจรจาตกลงไปแล้วก็อาจต้องเจรจาใหม่
@EIA ผ่านฉลุย เปลี่ยนตำแหน่ง 2 สถานี
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ที่มีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบรายงานการขอเปลี่ยนรายละเอียด EIA โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี กรณีเปลี่ยนแปลงตำแหน่งสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) และสถานีนพรัตนราชธานี (PK26) ของ รฟม.
และเห็นชอบโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (ส่วนช่องนนทรี-สาทร) กรณีปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้าตากสิน (S6) ของสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และให้ประชาชนเดินทางด้วยความสะดวก ปลอดภัย โดยให้เจ้าของโครงการดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดในรายงานอย่างเคร่งครัดรับความเห็นของคณะกรรมการฯ ไปดำเนินการ และให้นำความเห็นของคณะกรรมการฯ เสนอ ครม.ตามขั้นตอนต่อไป
ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า สายสีชมพูต่อขยายจากสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี รฟม.นำเสนอคณะกรรมการกำกับโครงการฯ ตามมาตรา 43 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ ปี 2556 พิจารณาตัวเลขผลตอบแทนทางการลงทุน (EIRR) แล้ว ส่วนสายสีเหลืองต่อขยาย มีประเด็นกรณีที่จะกระทบต่อสัญญาสัมปทานของบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM นั้น รฟม.ได้ให้ทาง BEM จ้างที่ปรึกษาศึกษารายละเอียดผลกระทบ ซึ่งจะสรุปผลศึกษาภายในเดือน ธ.ค.นี้ โดยจะใช้เป็นข้อมูลในการเจรจากับ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทานสายสีเหลืองต่อไป
“หลักการสำคัญ รฟม.จะคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับมากที่สุด ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่ามีผลกระทบต่อปริมาณผู้โดยสารสายสีน้ำเงินแค่ไหน และจะต้องเยียวยากันอย่างไร ขอดูผลศึกษาที่สรุปตัวเลขออกมาก่อน”
สำหรับสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ระยะทาง 3 กม. จำนวน 2 สถานีลงทุนกว่า 3,300 ล้านบาท สายสีเหลืองส่วนต่อขยาย ช่วงแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถึงแยกรัชโยธิน ระยะทาง 2.6 กม. ลงทุนกว่า 3,700 ล้านบาท