“เวนดิ้ง แมชชีน” เปิดศึกสะดวกซื้อ เตรียมว้าว! ขายชาไข่มุก-กาแฟแบบชงสด

การตลาด - ตลาด "เวนดิ้ง แมชชีน" 3 พันล้านบาทจากนี้มีแต่ว้าว! เหตุช่วงเวลานี้เหมาะสมในการแจ้งเกิดเต็มกำลัง รับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ล่าสุดยึดทำเลปั๊มน้ำมันเปิดศึกสู้กับร้านสะดวกซื้ออย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมให้บริการสินค้าใหม่ๆ มีลุ้นในปีหน้า ประเทศไทยยืนหนึ่งที่แรกในโลกที่มีตู้หยอดเหรียญจำหน่ายชาไข่มุกและกาแฟแบบชงสด

ว่ากันว่าเจ้าแห่งเวนดิ้งแมชชีน หรือตู้จำหน่ายอาหารเครื่องดื่มหยอดเหรียญนั้นคือ ประเทศญี่ปุ่น เพราะมีตู้หยอดเหรียญจำหน่ายสารพัดสินค้า ไม่ว่าจะเป็น ตู้เครื่องดื่มสำเร็จรูปหยอดเหรียญ, ตู้ชงกาแฟหยอดเหรียญ, ตู้อาหารร้อนหยอดเหรียญ และล่าสุดกับตู้ทำราเมนสดพร้อมรับประทานแบบหยอดเหรียญ
แต่เมื่อมองกลับมาที่ประเทศไทยของเราแล้ว ตลาดเวนดิ้งแมชชีนของไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกเช่นกัน เพราะมีการพัฒนานวัตกรรม สินค้าใหม่ๆ ได้ตรงความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี เช่น การชำระเงินด้วยบัตรเครดิต บาร์โค้ด เป็นต้น รวมถึงรูปแบบสินค้าที่จำหน่ายมีความหลากหลายมากขึ้น เช่น อาหารกล่องพร้อมรับประทาน, อาหารกลุ่มมังสวิรัติ อาหารกึ่งสำเร็จรูป หรือไอศกรีมผัด เป็นต้น เวลานี้จึงถือเป็นช่วงแจ้งเกิดของตลาดเวนดิ้งแมชชีนอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ให้บริการมากว่า 10 ปี

.


*** เปิดศึกสะดวกซื้อ เวนดิ้งแมชชีน ยึดปั๊มน้ำมัน

ปัจจุบันในประเทศไทยคาดว่าจะมีตู้เวนดิ้งแมชชีนที่จำหน่ายเฉพาะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มอยู่ประมาณ 200,000-300,000 ตู้ทั่วประเทศ จากตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมาที่เริ่มทำตลาดในไทย ดังนั้น เวนดิ้งแมชชีน จึงไม่ใช่บริการใหม่ แต่เนื่องจากที่ผ่านมาทำเลที่ให้บริการของเวนดิ้งแมชชีนส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก รองลงมาคือ อาคารสำนักงาน และตามหอพัก ที่พักอาศัยบ้าง แต่ในช่วง 1-2 ปีมานี้เวนดิ้งแมชชีนกำลังก้าวเข้าสู่ตลาดคอนซูเมอร์โดยตรงมากขึ้น ทั้งในเรื่องของสินค้าที่หลากหลายขึ้น และที่สำคัญคือ ทำเล ที่มีศักยภาพเทียบเท่าร้านสะดวกซื้อ

จากเดิมที่ผ่านมาร้านสะดวกซื้อ และตู้เวนดิ้งแมชชีนจะไม่ยึดทำเลเดียวกัน ที่ไหนมีร้านสะดวกซื้อที่นั่นจะไม่มีตู้เวนดิ้งแมชชีน เพราะศักยภาพการให้บริการของตู้เวนดิ้งแมชชีนไม่สามารถทำได้ดีเท่าร้านสะดวกซื้ออย่างที่รู้กัน แต่ยังมีช่องว่างของโอกาสที่ทำให้ตู้เวนดิ้งแมชชีนเติบโตได้ นั่นคือ ทำเลปั๊มน้ำมันที่ยังไม่มีร้านสะดวกซื้อเข้าไปเปิดให้บริการ และในวันนี้ ปั๊มคาลเท็กซ์ พร้อมเปิดโอกาสให้กับตู้เวนดิ้งแมชชีนเข้าไปเปิดให้บริการได้ จึงถือเป็นการเปิดศึกชิงทำเลทองระหว่างตู้เวนดิ้งแมชชีน และร้านสะดวกซื้ออย่างเป็นทางการ ภายใต้จุดแข็งของตู้เวนดิ้งแมชชีนที่มีการลงทุนและต้นทุนต่ำกว่าเป็น 10 เท่าตัวเมื่อเทียบกับร้านสะดวกซื้อ

ดังนั้น ล่าสุดบริษัท ซันร้อยแปด จำกัด ผู้นำธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติภายใต้ชื่อ SUN108 Vending และบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด ผู้ให้บริการตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ตู้บุญเติม ได้จับมือกับปั๊มคาลเท็กซ์เปิดให้บริการ “อิ่ม 24 ชม. Vending Box” ขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงกลางเดือน พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา หลังจากที่ทดลองให้บริการมาก่อนหน้าราว 6 เดือนพบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำเลปั๊มน้ำมันจึงกลายเป็นทำเลทองของเวนดิ้งแมชชีนที่จะทำให้เกิดการเติบโตได้มากยิ่งขึ้น


นายชุตินธร ปักเข็ม รองผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายผลิตภัณฑ์ประเทศไทย บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญมากในชีวิต หรือเรียกได้ว่าก้าวเข้ามาสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ วิถีชีวิต รวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การเข้าถึงผู้บริโภคในยุคนี้จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาปรับเปลี่ยน หรือแม้แต่สร้างมูลค่าให้กับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร จึงเป็นที่มาของความร่วมมือในการเปิดให้บริการ “อิ่ม 24 ชม. Vending Box” ที่เกิดขึ้นจากการผนึกกำลังของคาลเท็กซ์กับ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ ได้แก่ บริษัท ซันร้อยแปด จำกัด ผู้นำธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ภายใต้ชื่อ “SUN108 Vending” และบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด ผู้ให้บริการตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ตู้บุญเติม”

ที่ผ่านมาปั๊มคาลเท็กซ์มีให้บริการร้านสะดวกซื้ออยู่ราว 62 สาขา ในรูปแบบของการให้เช่าพื้นที่ เฉลี่ยร้านสะดวกซื้อแต่ละสาขาจะต้องมีพื้นที่ประมาณ 100 ตารางเมตร ซึ่งเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูงหลักล้านบาทขึ้นไป แต่บริการ อิ่ม 24 ชม. Vending Box มีการลงทุนที่ต่ำกว่าหลายเท่าตัว หรือ 1 ตู้เฉลี่ย เฉลี่ยลงทุนที่ 1 แสนบาท ซึ่งทางคาลเท็กซ์จะมีการให้บริการรวมที่ 100 แห่ง แต่ละแห่งพื้นที่ไม่เท่ากัน สำหรับสาขาเพชรคลองหนึ่งถือว่ามีพื้นที่สูงสุดแล้วที่ 60 ตารางเมตร ลงได้ 6 ตู้

สำหรับการให้บริการ “อิ่ม 24 ชม. Vending Box” นำร่องสาขาแรกในปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ สาขาเพชรคลองหนึ่ง คาดหวังว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ทั้งการเพิ่มจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ การกระตุ้นยอดขายน้ำมัน รวมถึงดึงดูดผู้ใช้รถให้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งถือเป็นการช่วยสร้างการเติบโตโดยรวมให้กับธุรกิจในอีกทางหนึ่ง


บริษัทตั้งเป้าภายในปี 2565 จะเปิดให้บริการ “อิ่ม 24 ชม. Vending Box” ในปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์กว่า 100 แห่งจากปัจจุบันปั๊มคาลเท็กซ์เปิดให้บริการกว่า 370 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 50% เท่าๆ กัน


"แม้ว่าเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ หรือเวนดิ้งแมชชีน อาจจะดูไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนไทย แต่ก็เป็นอีกเทรนด์ธุรกิจหนึ่งที่ตอบโจทย์ความสะดวกยุคสังคมเมืองขยายตัว และเป็นเทรนด์ที่มีแนวโน้มการเติบโตในทิศทางบวก เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าพฤติกรรมการซื้อสินค้าแบบด่วน ให้บริการ 24 ชม.ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากสินค้าต่างๆ ที่นำมาเป็นช่องทางการขายเพื่อเสริมกับช่องทางหลัก หรือแม้แต่ผู้ใช้บริการเองที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วโดยไม่ต้องพึ่งพนักงานขาย ที่สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน สถานศึกษา หรือแม้แต่ในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าและกลุ่มเป้าหมาย" นายชุตินธรกล่าว

*** เวนดิ้งแมชชีนไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก

นอกจากทำเลทองอย่างปั๊มน้ำมันที่เวนดิ้งแมชชีนทำในเชิงรุกแล้ว ในแง่ของบริการใหม่ๆ ยังคงถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการพัฒนาของผู้ผลิตเวนดิ้งแมชชีนโดยตรง หรือผลิตตามออเดอร์ลูกค้าที่สนใจจำหน่ายสินค้าต่างๆ ตามเทรนด์และพฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงโอกาสที่มองไว้ ส่งผลให้ภาพรวมตลาดเวนดิ้งแมชชีนต่อปีมีความต้องการไม่ต่ำกว่า 20,000-30,000 ตู้

นายสมบัติ ภานุพัฒนา รองประธานฝ่ายการตลาด บริษัท ซันร้อยแปด จำกัด ผู้นำธุรกิจตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ภายใต้ชื่อ SUN108 Vending กล่าวว่า โดยเฉลี่ยการลงทุนเวนดิ้งแมชชีน 1 ตู้อยู่ที่ประมาณ 100,000 บาท ขณะที่ปี 2562 นี้ตลาดเวนดิ้งแมชชีนเติบโตสูงมากหรือมีความต้องการถึง 28,000-30,000 ตู้ คิดเป็นมูลค่าราว 3,000 ล้านบาท จากปีก่อนมีไม่ถึง 20,000 ตู้ หรือโตปีละประมาณ 25% เนื่องจากปีนี้ลูกค้ามีความต้องการหลากหลายที่อยากจะจำหน่ายสินค้ามากขึ้น


ด้านนางสาวจันทร์เพ็ญ มีใย ผู้จัดการฝ่ายขายโครงการ บริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด ผู้ให้บริการตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ตู้บุญเติม กล่าวเสริมว่า ปีนี้เวนดิ้งแมชชีนเป็นช่วงที่มีโอกาสสูงมาก ตามเทรนด์บริการที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งทางบริษัทเองเป็นทั้งผู้ผลิตและพัฒนาตู้เวนดิ้งแมชชีน และให้บริการตู้บุญเติม พบว่าปัจจุบันมีออเดอร์ที่รับผลิตเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ในส่วนของตู้บุญเติมเองก็พร้อมพัฒนานวัตกรรมการให้บริการใหม่ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่นสินค้าที่กำลังเป็นที่นิยมของคนไทย เช่น ชาไข่มุก และกาแฟสด เป็นต้น

"นวัตกรรมขั้นต่อไปของตู้บุญเติมที่มองไว้ คือ การพัฒนาตู้เวนดิ้งแมชชีนที่จำหน่ายเครื่องดื่มแบบชงสด ยกตัวอย่างเช่น 1. เมนูกลุ่มกาแฟสด โดยมีขั้นตอนไม่แตกต่างจากเครื่องชงกาแฟสด มาพร้อมน้ำแข็ง ชงสดใหม่พร้อมดื่ม และ 2. ชาไข่มุก ที่จะมีวิธีการชงสดใหม่มาพร้อมน้ำแข็ง เหมือนซื้อตามร้านชาไข่มุกทั่วไป คาดว่าอย่างเร็วที่สุดภายในปีหน้าจะได้เห็น"

นางสาวจันทร์เพ็ญกล่าวต่อว่า การให้บริการกาแฟชงสด หรือชาไข่มุกนั้นจะออกมาในรูปแบบใดนั้นเวลานี้ยังไม่ได้สรุป เพราะยังอยู่ในขั้นตอนพัฒนาตู้เวนดิ้งแมชชีนอยู่ รวมถึงศึกษาตลาดและความเป็นไปได้ต่างๆ ซึ่งอาจจะมีทั้งแบบตู้บุญเติมสร้างแบรนด์ขึ้นมาแล้วขายเอง หรือร่วมมือกับแบรนด์เครื่องดื่มอื่นๆ ก็เป็นได้ แต่ที่สำคัญที่สุดหากสามารถทำออกมาได้จริงประเทศไทยจะถือเป็นประเทศแรกในโลกที่มีตู้เวนดิ้งแมชชีนจำหน่ายชาไข่มุก และกาแฟแบบชงสด พร้อมน้ำแข็ง อย่างแน่นอน