บมจ.ฟอร์ทสมาร์ท เซอร์วิส หั่นเป้ารายได้ปีนี้เหลือโต 1-3% จากเดิมคาดโต 5% หลังศก.ชะลอ ไลน์เซนต์ปล่อยสินเชื่อล่าช้า แต่หวังปี 63 รายได้โต 5% หลังเดินหน้าปล่อยสินเชื่อรายย่อย 1,000 ลบ. พร้อมทุ่ม 200 ลบ.ขยายตู้บุญเติม คาดปีหน้าเพิ่มเป็น 1.34-1.35 แสนตู้
นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ทสมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือโต 1-3% จากเดิมตั้งเป้าเติบโต 5% ทั้งนี้เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และเป็นผลจากได้รับใบอนุญาตการปล่อยสินเชื่อทั้งสินเชื่อรายย่อยบุคคล นาโนไฟแนนซ์ และสินเชื่อจำนำทะเบียนล่าช้า จึงทำให้ในปีนี้ยังไม่ได้ดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อดังกล่าว
" แผนงานที่เหลือของปีนี้ บริษัทจะเพิ่มบริการใหม่ๆ บนตู้บุญเติมและขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ เพื่อผลักดันให้ลูกค้ามาใช้บริการผ่านตู้บุญเติมเพิ่มขึ้น โดยขยายจุดติดตั้งตู้อัจฉริยะต่างๆเพิ่มขึ้น ทั้งตู้ขายซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือและบริการพิสูจน์ตัวตน (e-KYC) ของผู้ให้บริการเครือข่ายต่างๆ โดยมีเป้าหมายรวมกว่า 1,200 ตู้ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ตู้จำหน่ายเครื่องดื่มและสินค้าอัตโนมัติ ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 10% และรับบริหารจัดการระบบของธุรกิจนั้น มีเป้าหมายติดตั้งตู้ให้ได้ 4,000 ตู้ภายในปีนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้าในอนาคต " นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังเพิ่มบริการรับฝากเงินสด-โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารพาณิชย์เพิ่มอีก 2 ราย จากปัจจุบันมีทั้งหมด 4 ธนาคาร คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY และธนาคารออมสิน
สำหรับปี 2563 บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 5% โดยมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจเติมเงิน 70% จากปัจจุบันอยู่ที่ 80% และธุรกิจอื่นๆ รวมปล่อยสินเชื่อ 30% จากปัจจุบันอยู่ที่ 20% อีกทั้งตั้งงบลงทุนไว้ที่ 200 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เพื่อการขยายตู้ขายซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือและบริการพิสูจน์ตัวตน (e-KYC) รวม 2,000-3,000 ตู้ ทำให้ปีหน้ามีตู้รวมทั้งสิ้น 134,000-135,000 ตู้ จากสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 132,000 ตู้
ในส่วนของธุรกิจปล่อยสินเชื่อนั้น ช่วงปีแรกบริษัทคาดว่าจะปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มตัวแทนตู้บุญเติม พนักงานของกลุ่มตัวแทน และพนักงานของบริษัทในเครือก่อน โดยตั้งเป้ามียอดปล่อยสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท สำหรับสาเหตุที่เจาะกลุ่มตัวแทนฯ เนื่องจากมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ และในระยะต่อไปบริษัทจะขยายไปยังกลุ่มทั่วไป รวมถึงธุรกิจจำนำทะเบียนด้วย ซึ่งจะพยายามคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไว้ที่ระดับต่ำไม่เกิน 2%
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเพิ่มบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การขายสลากออมทรัพย์ การขายประกันอุบัติเหตุ และอื่นๆด้วย
ด้านตู้อัจฉริยะบุญเติมรูปแบบอื่นๆ เช่น สถานีชาร์จและเปลี่ยนแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในไตรมาส 2-3 ปี 2563