MTC ผู้นำตลาดสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ และนาโนไฟแนนซ์ โชว์ผลงานไตรมาส 3/62 นิวไฮทุกมิติ โดยพอร์ตสินเชื่อยังคงเติบโต 29% จากงวดเดียวกันปีก่อน แม้จะเพิ่มความระมัดระวังในเรื่องคุณภาพสินทรัพย์และ NPL จำนวนสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 3,961 สาขาทั่วประเทศ ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 3,900 สาขา ด้าน “ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” ประธานกรรมการบริหาร มั่นใจผลงานปีนี้แตะนิวไฮ รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลงต่อเนื่อง ยันคุมเข้มระดับ NPL ไม่เกิน 2%
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/62 เป็นที่น่าพอใจเช่นทุกไตรมาสที่ผ่านมา โดยไตรมาสนี้มีกำไรสุทธิ 1,080 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 965 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 3,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,711 ล้านบาท
สำหรับในงวดผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2562 มีกำไรสุทธิ 3,106 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,711 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 9,233 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 7,595 ล้านบาท เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯ เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 29% จากการเปิดสาขาใหม่
"ภาพรวมการดำเนินธุรกิจช่วง 9 เดือนแรกปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่าก่อนหน้านี้เราจะมีความกังวลเรื่อง NPL ที่อาจมาพร้อมกับภัยธรรมชาติในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่เราก็เพิ่มความระมัดระวังในการปล่อย และการติดตามหนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากความสำเร็จในผลการดำเนินงานของไตรมาสนี้ที่ NPL ของเราลดไปต่ำกว่า 1% แต่พอร์ตสินเชื่อโตได้ตามเป้า ในขณะเดียวกัน ก็สามารถเพิ่มจำนวนสาขาได้ทะลุเป้าหมาย 3,900 สาขา ดังนั้น เราจึงสามารถรักษาการเติบโตของกำไรไว้ได้ โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ปัจจัยทุกอย่างเป็นบวก และยังอยู่ในทิศทางที่ดี จากความต้องการสินเชื่อในไตรมาส 4 ที่คาดว่าจะสูงขึ้น ตลอดจนได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการบริโภค และได้ประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมของผลการดำเนินงานปีนี้ยังสามารถทุบสถิติสูงสุดได้ต่อเนื่อง"
นายชูชาติกล่าวต่อว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อปีนี้จะเติบโตระดับ 25-30% และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไม่เกิน 2% โดยในครึ่งปีหลังยังให้ความสำคัญต่อการดูแลบริหารคุณภาพหนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของไทยมีทิศทางที่ชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความคืบหน้าธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ บริษัทฯ ได้เริ่มทำธุรกิจภายใต้ “บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด” ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการทดสอบตลาดอีกสักระยะก่อนที่จะขยายธุรกิจให้มากขึ้น โดยจะใช้ฐานลูกค้าจำนวนมากกระจายทั่วประเทศประมาณ 2 ล้านราย และจะช่วยให้สินเชื่อขยายตัวได้ต่อเนื่อง