กรมธุรกิจพลังงานเร่งหารือดันแก๊สโซฮอล์อี 20 เป็นน้ำมันพื้นฐานต้นปี 2563 ตามนโยบาย “สนธิรัตน์” คาดได้ข้อสรุป ธ.ค.นี้ ผู้ผลิตเอทานอลขานรับยกระดับราคาอ้อยและมันสำปะหลัง ยันปริมาณเอทานอลมีเพียงพอแน่นอน ขณะที่ผู้ค้าน้ำมันหนุนให้ยกเลิกโซฮอล์ 91 เพื่อความชัดเจน
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ ยังอยู่ระหว่างการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ค้าและกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน ค่ายรถยนต์ ผู้ผลิตและค้าเอทานอล เพื่อขับเคลื่อนให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 20 เป็นน้ำมันพื้นฐานในต้นปี 2563 ตามนโยบาย Energy For All ของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งคาดว่าจะสรุปความชัดเจนได้ภายในเดือนธันวาคมนี้
“เราได้หารือกับทุกฝ่ายไปแล้ว 2 ครั้ง และยังต้องหารืออีกต่อเนื่องเพราะยังมีรายละเอียดอีกหลายอย่างที่ต้องพิจารณา โดยยอมรับว่ารถยนต์รุ่นใหม่นั้นสามารถใช้แก๊สโซฮอล์อี 20 ได้ทั้งหมด แต่ก็พบว่าคนกลุ่มนี้ยังเติมไม่เต็มประสิทธิภาพตามจำนวนรถ ขณะเดียวกัน หากมีการส่งเสริมจะต้องดูถึงปริมาณเอทานอล และรถยนต์ที่จะต้องให้สอดรับกัน” อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานกล่าว
นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานและที่ปรึกษา รมว.พลังงาน กล่าวว่า การส่งเสริมให้แก๊สโซฮอล์อี 20 เป็นน้ำมันพื้นฐานนั้นรัฐสามารถประกาศยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 ได้เพื่อลดความสับสนให้ผู้บริโภคที่ขณะนี้มีหัวจ่ายมากเกินไป หรือจะใช้กลไกราคาจูงใจ เช่น ให้แก๊สโซฮอล์ 91 เท่ากับแก๊สโซฮอล์ 95 จากขณะนี้ราคาแก๊สโซฮอล์ 91 ถูกกว่า 27 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งในที่สุดก็จะยกเลิกการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 91 ไปเอง
นายประวิทย์ ประกฤตศรี ประธานเจ้าหน้าที่หน่วยธุรกิจพลังงานกลุ่มมิตรผลในฐานะผู้ผลิตเอทานอลรายใหญ่ของประเทศ กล่าวว่า กลุ่มมิตรผลสนับสนุนนโยบายดังกล่าวเพราะแก๊สโซฮอล์เป็นการนำเอทานอลผลิตจากกากน้ำตาล (โมลาส) และมันสำปะหลังมาผสมเบนซินที่จะช่วยยกระดับราคาอ้อยและมันสำปะหลังให้เกษตรกรไทย และยังมีส่วนช่วยลดการนำเข้าน้ำมันทำให้เกิดการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจไทย โดยผลผลิตเอทานอลเฉลี่ยปัจจุบันอยู่ประมาณ 6 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่ความต้องการอยู่ระดับกว่า 4 ล้านลิตรต่อวันจึงมีเพียงพอที่จะกำหนดให้แก๊สโซฮอล์ 95 อี 20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน
“ขณะนี้ปริมาณเอทานอลมีมากพอจึงไม่มีปัญหาอะไร ส่วนกรณีที่มองว่ายานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) จะเข้ามาแทนรถใช้น้ำมันนั้นเป็นเรื่องระยะยาวเพราะรถอีวียังมีราคาค่อนข้างแพง” นายประวิทย์กล่าว
นายเจษฎา ว่องวัฒนะสิน อุปนายกสมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย หรือ TEMA กล่าวว่า สนับสนุนนโยบายการส่งเสริมให้อี 20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน แต่จะมีการยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 หรือไม่คงต้องอยู่ที่นโยบายภาครัฐเป็นสำคัญ แต่ที่ผ่านมารัฐยังคงเลือกที่จะใช้กลไกราคาระหว่างแก๊สโซฮอล์ 91 กับแก๊สโซฮอล์ 95 เป็นหลัก
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ปัจจุบันรถยนต์ส่วนใหญ่สามารถใช้แก๊สโซฮอล์อี 20 ได้หมดแล้ว ซึ่งหากจะกำหนดให้เป็นน้ำมันพื้นฐานคงไม่ได้มีผลกระทบใดๆ มากนัก
แหล่งข่าวจากผู้ค้าปลีกน้ำมัน กล่าวว่า ผู้ค้าปลีกน้ำมันส่วนใหญ่ต้องการให้ประกาศยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 เพื่อทำให้เกิดความชัดเจนต่อผู้บริโภคและลดประเภทหัวจ่ายที่มีจำนวนมากลงไปมากกว่าที่จะใช้กลไกราคา และผู้ค้าเองก็สามารถวางแผนการบริหารจัดการได้ดีกว่าและโรงกลั่นก็มีความพร้อมเช่นกัน