“สนธิรัตน์” เตรียมเสนอ กพช.ที่มีนายกฯ เป็นประธานกลาง ธ.ค.นี้ เคาะหลักเกณฑ์การส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชน แผนชัดเจนดันไทยสู่ศูนย์กลางซื้อขายแอลเอ็นจี (ฮับ) รวมถึงแนวทางขับเคลื่อนลดฝุ่น PM 2.5 ทั้งดันอี 20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน มาตรการส่งเสริมรถอีวี หวังบูม ศก.ปี 2563 พร้อมเร่งศึกษามาตรการมอบเป็นของขวัญประชาชน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน กลางเดือนธันวาคมนี้ กระทรวงฯ จะเสนอนโยบายหลักๆ ที่จะดำเนินการในระยะ 3 เดือน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากที่สำคัญ ได้แก่ โรงไฟฟ้าชุมชน การสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลวในภูมิภาค (ฮับแอลเอ็นจี) รวมถึงการรายงานความคืบหน้ามาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) พร้อมกันนี้ยังได้มอบหมายให้นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ไปศึกษาหามาตรการที่จะมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่คนไทยในการลดค่าครองชีพที่คาดว่าจะเสนอในการประชุมเดือน ธ.ค.
“รายละเอียดของแนวทางดำเนินงานโดยเฉพาะรูปแบบของโรงไฟฟ้าชุมชน และแนวทางการทำให้ไทยเป็นฮับแอลเอ็นจีที่ยอมรับว่าไม่ง่ายซึ่งจะต้องมีการมาดูทั้งโครงสร้างพื้นฐานรองรับ มีการปลดล็อก หรือแก้ระเบียบเพื่อให้ไทยเป็นฐานการจำหน่ายแอลเอ็นจี เนื่องจากไทยมีความพร้อมทั้งด้านภูมิศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค และสถานีรับแอลเอ็นจีของ บมจ.ปตท.ที่พร้อมรับและส่งออกโดยจะผลักดันให้เห็นเป็นรูปธรรมในไตรมาสแรกปี 2563 ซึ่งทั้งหมดจะนำมาหารือในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันที่ 4 ธ.ค.นี้” นายสนธิรัตน์กล่าว
สำหรับมาตรการลดฝุ่นละอองขนาดเล็กจะมีหลายมาตรการในการขับเคลื่อนได้แก่ การเร่งรัดการกำหนดให้น้ำมันดีเซลบี 10 เป็นน้ำมันพื้นฐานที่จะเริ่ม 1 ม.ค. 63 และมีดีเซลบี 20 เป็นน้ำมันทางเลือก การผลักดันการส่งเสริมให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 20 เป็นน้ำมันพื้นฐานในต้นปี 2563 เช่นกันซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางดำเนินงานซึ่งทั้งดีเซลบี 10 และอี 20 ส่วนหนึ่งยังเป็นการยกระดับราคาพืชผลการเกษตรได้แก่ ปาล์ม อ้อย และมันสำปะหลังอีกด้วย
นอกจากนี้จะมีการประกาศมาตรการส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่จะเป็นแผนร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขฝุ่นละอองซึ่งจะมีความชัดเจนทั้งปริมาณรถซึ่งขณะนี้ได้ยึดฐานการผลิต 1.2 ล้านคัน ในปี 2579 สว่นจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่อยู่ที่การหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การจัดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าที่จะต้องมีการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าขายปลีกจำหน่ายแก่อีวี เป็นต้น โดยคาดว่าจะประกาศแผนชัดเจนในต้นปี 2563
“สัปดาห์หน้าจะมีการหารือถึงแนวทางการปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน โครงสร้างราคาก๊าซหุงต้มให้เหมาะสม มีความชัดเจนที่จะสามารถชี้แจงได้แก่ภาคประชาชนและเราจะมีการติดตามงานเพื่อให้เป็นไปตามแผนงานต่อเนื่อง” นายสนธิรัตน์กล่าว
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน และประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (บอร์ด กฟผ.) กล่าวว่า ขอยืนยันว่าการนำเข้าแอลเอ็นจีของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ โดยการนำเข้าแบบตลาดจร (Spot) จะเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางสนับสนุนฮับแอลเอ็นจี
