สุวรรณภูมิย้ายจุดตรวจค้นใน ปท.จากชั้น 4 ไปที่ Concourse ด้านใน ส่วนพื้นที่เดิมจะปรับเป็นตรวจค้น “ระหว่าง ปท.ขาออก” ขณะที่ยังมีข้อกังวล หวั่นสแกนก่อนขึ้นเครื่องอาจมีปัญหาความปลอดภัย และซื้อของจากร้านค้าด้านในถือขึ้นเครื่องไม่ได้
นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันอังคารที่ 19 พ.ย. 62 นี้ สนามบินสุวรรณภูมิจะเปลี่ยนการให้บริการการตรวจค้นผู้โดยสารภายในประเทศขาออกเป็นแบบ Concourse Screening โดยยกเลิกจุดตรวจค้นภายในประเทศ ชั้น 4 (เดิม) ย้ายไปทำการตรวจค้นภายในอาคารเทียบเครื่องบิน A และอาคารเทียบเครื่องบิน B (Concourse A และ B) บริเวณชั้น 2 และชั้น 3 แทน ซึ่งจะเป็นการกระจายจุดตรวจค้น จากเดิมที่มีจุดเดียว ที่มีพื้นที่คับแคบทำให้เกิดความแออัดในชั่วโมงเร่งด่วน
โดยจุดดังกล่าวมีพื้นที่มากขึ้นสามารถเพิ่มช่องตรวจค้นจากเดิม 6 ช่องตรวจเป็น 12 ช่องตรวจ แต่ในวันที่ 19 พ.ย.นี้จะเปิดใช้ 7 ช่องตรวจก่อน เนื่องจากจำนวนเจ้าหน้าที่ยังไม่เพียงพอ คาดว่าจะเปิดครบ 12 ช่องตรวจได้ประมาณวันที่ 15 ก.พ. 2563 โดย ทอท.จะจัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำเพราะผู้โดยสารอาจเกิดความสับสน
ที่ผ่านมา ทอท.ได้ทำสัญญากับ บริษัท รักษาความปลอดภัย เอเอสเอ็ม เมเนจเม้นท์ จำกัด (ASM) เป็นผู้ดูแลงานด้านรักษาความปลอดภัย ซึ่งสัญญาจะครบสิ้นเดือน พ.ย. 62 โดยตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 62 จะทำสัญญาจ้าง ASM ชั่วคราวเป็นระยะเวลา 9 เดือน วงเงินประมาณ 500-600 ล้านบาทไปก่อน เนื่องจากทอท.อยู่ระหว่างตั้งบริษัทลูกขึ้นมาดำเนินการงานด้านรักษาความปลอดภัยเอง โดยรับโอนพนักงาน ASM มาอยู่ในบริษัทลูกทั้งหมด
ทั้งนี้ การย้ายจุดตรวจค้นดังกล่าว ทอท.ได้ดำเนินการตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งจุดตรวจค้นแบบ Concourse Screening ที่ Concourse A และ B นั้นมีการออกแบบไว้ตั้งแต่ก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิแต่ไม่ได้ใช้ เนื่องจากต้องใช้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนมาก จึงทำการตรวจค้นพื้นที่บริเวณฝั่งทิศตะวันออกของอาคารผู้โดยสารชั้น 4 เพราะใช้เจ้าหน้าที่น้อยกว่า
“ตอนนี้ต้องเพิ่มบุคลากรอีก 1,015 คน หรือจาก 2,000 คน เป็น 3,015 คน ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการเพราะจะต้องใช้เวลาอบรมอีกประมาณ 2 เดือนครึ่ง”
นอกจากนี้ ทอท.ได้ขอคืนพื้นที่จากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในส่วนของ First Class Lounge ชั้น 4 โดยจะใช้พื้นที่เป็นจุดตรวจค้นผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออก 7 ช่องตรวจเพื่อลดความแออัดของจุดเดิม โดยการออกแบบจะเสร็จในเดือน เม.ย. 2563 จากนั้นจะตั้งงบดำเนินการในปี 2564 ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกจาก 4,500 คนต่อ ชม. เป็น 6,000-7,000 คนต่อ ชม.
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามผู้โดยสารถึงการย้ายจุดตรวจค้นไปที่ Concourse A และ B ซึ่งอยู่หลังจากพื้นที่ขายสินค้ามีความกังวลหลายประเด็น เช่น การให้เดินเข้าไปถึงพื้นที่ด้านในอาคารผู้โดยสารโดยไม่ผ่านการสแกนจะกระทบต่อความปลอดภัยหรือไม่, กรณีซื้อน้ำ หรือของเหลวจากร้านค้าด้านในอาคาร ซึ่งเดิมอยู่หลังตรวจค้น จากนี้จะกลายเป็นอยู่ก่อนจุดตรวจค้น จะต้องทิ้งก่อนขึ้นเครื่องตามกฎห้ามของเหลวขึ้นเครื่องหรือไม่