“ส.อ.ท.” คาดหวังที่ประชุม กนง.วันที่ 6 พ.ย.นี้จะมีมติลดดอกเบี้ยอย่างต่ำ 0.25% เพื่อประคอง ศก.โค้งสุดท้าย ลดแรงกดดันค่าเงินบาทหวั่นหลุด 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐซ้ำเติมส่งออกที่ต้องรับมือทั้งเทรดวอร์-จีเอสพี “กกร.” ถก 6 พ.ย.นี้ประเมินทิศทาง ศก.
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ ภาคเอกชนคาดหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงขั้นต่ำ 0.25% จากระดับ 1.50% ในปัจจุบัน เพื่อประคองเศรษฐกิจและลดแรงกดดันจากภาะค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าไปมากกว่านี้ เนื่องจากต้องยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังอยู่ในช่วงชะลอตัวจึงต้องการให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวม
“ ส.อ.ท. และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเองก่อนหน้านี้ได้เคยเสนอให้มีการพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงไปแล้วซึ่งถือว่าลดช้าไป แต่ก็หวังว่า กนง.ครั้งนี้จะลดลง อาจจะไม่ได้ช่วยให้บาทอ่อนค่าได้มากนัก แต่อย่างน้อยก็จะดูแลเศรษฐกิจโดยรวมเมื่อรวมกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลทยอยออกมาช่วงท้ายปี ทั้งชิมช้อปใช้ การกระตุ้นท่องเที่ยว ภาคอสังหาริมทรัพย์ ก็จะทำให้สถานการณ์ภาพรวมดีขึ้นบ้าง” นายสุพันธุ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย 6 พ.ย.นี้จะหารือถึงภาพรวมเศรษฐกิจโดยเฉพาะทิศทางการส่งออกของไทยท่ามกลางปัจจัยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนรวมถึงกรณีล่าสุดที่สหรัฐฯเตรียมระงับสิทธิพิเศษภาษีศุลกากร (GSP) กับสินค้าไทย 500 กว่ารายการที่จะมีผลกระทบต่อการส่งออกไทยแล้ว สิ่งที่กังวลอย่างมากคือค่าเงินบาทที่แข็งค่าแตะ 30-30.25 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ที่จะกดดันการส่งออกของไทยให้ต่ำลงได้อีก และหากหลุดระดับ 30 บาทต่อเหรียญฯ ก็จะยิ่งน่าห่วงมากขึ้น
นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า คาดว่า กนง.วันที่ 6 พ.ย.นี้จะมีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะชะลอตัว จึงจำเป็นต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจและเชื่อว่าจะไม่ทำให้ค่าเงินบาทหลุดระดับ 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ พร้อมเชื่อว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ปีนี้ จะดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลทยอยออกมา
