xs
xsm
sm
md
lg

แรงกระเพื่อม “ไอคอนสยาม” ปลุกธุรกิจริมน้ำ-ฝั่งธนฯ เพิ่มแม็กเน็ตดึงลูกค้าเท่าตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


การตลาด - “ไอคอนสยาม” เปิดครบ 1 ปี สร้างแรงกระเพื่อมในเชิงบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจและสังคมย่านฝั่งธนบุรีให้คึกคักและเติบโตอย่างชัดเจน สร้าง Game Changer Destination ดันธุรกิจริมน้ำโตพุ่ง 20% การเดินทางทางน้ำโต 15% จ้างงานเพิ่มอีก 4 แม็กเน็ต อัดงบตลาด 300 ล้านบาทรับเทศกาลสิ้นปี

ถึงวันนี้ ครบ 1 ปีกับการเปิดบริการโครงการไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยมูลค่าการลงทุนสูงถึง 55,000 ล้านบาท

นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม กล่าวว่า หลังจากที่ได้เปิดบริการไอคอนสยามมาครบ 1 ปีพบว่าได้รับการตอบรับอย่างดี สามารถสร้าง Game Changer Destination สร้างศูนย์กลางธุรกิจการท่องเที่ยวกลางเมืองของกรุงเทพฯ ย่านฝั่งธนบุรีริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้สำเร็จ


มีผู้เข้ามาใช้บริการในศูนย์ประมาณ 80,000-120,000 คนต่อวัน โดยแบ่งเป็น ลูกค้าคนไทย 65% และเป็นต่างชาติ 35% มีทั้งที่มาเป็นกลุ่มทัวร์และมาเอง ซึ่งลูกค้าต่างชาติที่มามากที่สุดคือ จีน รองลงมาคือ เกาหลี ไต้หวัน และซีแอลเอ็มวี ขณะที่พื้นที่เช่านั้นเต็มหมดแล้ว

“โครงการนี้สามารถดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศมาเปิดธุรกิจในไอคอนสยามได้มากกว่า 5,000 ล้านบาท เช่น แอปเปิลสโตร์เปิดสาขาแรกในไทย รวมทั้งลักชัวรีแบรนด์ต่างๆ อีกทั้งบางรายมียอดขายสูงเป็นอันดับที่ 2 รองจากสยามพารากอน บางแบรนด์ได้ลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยใช้บริการเลย 40% เป็นต้น” นางชฎาทิพกล่าว

ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายปี 2562 นี้ได้เตรียมงบการตลาดกว่า 300 ล้านบาทในการจัดอีเวนต์และกิจกรรมต่างๆ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลด้วย 10 อีเวนต์ใหญ่ และย่อยอีกมาก รวมทั้งมั่นใจว่างานเคานต์ดาวน์ปีนี้จะดึงคนมาได้มากถึง 3-4 แสนคน มากกว่าปีที่แล้วที่จัดครั้งแรกมีประมาณ 2-3 แสนคน

*** *** แรงกระเพื่อมปลุกเศรษฐกิจฝั่งธนฯ
อย่างไรก็ตาม นอกจากการสร้างยอดขายให้แก่ร้านค้าแบรนด์ต่างๆ ยังสร้างการเติบโตและส่งผลดีเป็นแรงกระเพื่อมให้ธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยาและย่านฝั่งธนบุรีพลอยคึกคักขึ้นมาด้วยเช่นกัน


ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการบริหารเศรษฐกิจ กล่าวว่า ในอนาคตพื้นที่ย่านฝั่งธนบุรีนี้จะเหมือนกับเมืองฝู่ตง ที่เซี่ยงไฮ้ ที่ในอดีตไม่ค่อยมีค่า ไม่ค่อยเจริญ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ความเจริญเข้ามาทำให้มีการพัฒนากันอย่างมากมาย หรือเหมือนเมืองแมนฮัตตันในนิวยอร์ก ที่มีศักยภาพขึ้นมาในช่วงหลัง การเข้ามาของไอคอนสยามก็เช่นกัน ได้สร้างปรากฏการณ์และความเจริญให้กับธุรกิจย่านฝั่งธนบุรีได้ชัดเจน

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ กล่าวว่า การที่ไอคอนสยามจะเปิด “ทรู ไอคอน ฮอลล์” ซึ่งเป็นศูนย์การประชุมแห่งแรกของประเทศไทยที่มีเทคโนโลยีอันล้ำสมัย จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของอุตสาหกรรมการประชุมระดับนานาชาติ

ในขณะที่ “ริเวอร์ มิวเซียม แบงค็อก” ที่ไอคอนสยามซึ่งกำลังจะเปิดในเร็วๆ นี้ จะเป็นพื้นที่พิพิธภัณฑ์มาตรฐานสูงสุดระดับสากลแห่งแรกของไทย ที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถเป็นเจ้าภาพรองรับการจัดแสดงงานของพิพิธภัณฑ์และนิทรรศการระดับสูงสุดของโลกได้ ซึ่งจะช่วยให้กรุงเทพฯ และประเทศไทยมีความพร้อมและความแข็งแกร่งสำหรับอุตสาหกรรม MICE มากยิ่งขึ้น


กลุ่มตลาดไมซ์ถือเป็นกลุ่มนักธุรกิจเป็นหลักที่มีการเดินทางมากขึ้นและใช้จ่ายมากกว่านักท่องที่ยวต่างชาติทั่วไปถึง 3 เท่า ซึ่งการที่เรามีศูนย์การค้าใหญ่แบบนี้ยิ่งง่ายต่อการที่จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางไมซ์ได้ ก็ย่อมส่งผลดีต่อประเทศไทยด้วยเช่นกัน

นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในมุมมองของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ มองว่าไอคอนสยามนำความทันสมัยมาให้กับฝั่งธนบุรี นำระบบการเดินทางรถ ราง เรือ เชื่อมเข้าด้วยกัน ทำให้สะดวกต่อการเดินทาง โดยฝั่งธนบุรีมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างจากที่ดินย่านอื่น คือ มีการผสมผสานความเก่าของย่านที่มีวัฒนธรรม กับโครงการที่มีความทันสมัยมาผสมผสนกันได้อย่างลงตัว ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าที่ดินฝั่งธนบุรีนี้น่าสนใจมากขึ้นอีก และจะเติบโตต่อไปในอนาคตต่อเนื่อง และส่งผลดีต่อราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากเดิมที่ก่อนหน้านี้ราคาที่ดินใกล้เคียงประมาณ 1.5-2 แสนบาทต่อตารางวา ขยับขึ้นมาเป็น 3-4.5 แสนบาทต่อตารางวาแล้ว หรือแม้แต่ คอนโดมิเนียมในย่านนี้ก็มีราคาที่ขึ้นไปอีก 8-10% และขายดี คอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ เช่นของศุภาลัย ขายหมด 100% หรือของพฤกษา เปิดขาย 3 เดือนก็หมดเกลี้ยงเช่นกัน

โครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในฝั่งธนบุรีปี 2561 มีถึง 12 โครงการ จำนวน 6,509 ยูนิต และในปี 2562 มี 8 โครงการ จำนวน 5,538 ยูนิต ทั้งนี้ ถ้าพิจารณาโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในปี 2560-2562 เฉพาะที่ตั้งอยู่ใกล้กับไอคอนสยาม บนถนนเจริญนครและคลองสาน 3 โครงการ จำนวน 1,508 ยูนิต มียอดขายรวมเฉลี่ยสูงถึง 95% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงดีมานด์สะสมของผู้ซื้อในย่านดังกล่าว และนักลงทุนจากย่านอื่นๆ ที่มองเห็นศักยภาพในการเจริญเติบโต และความเป็นทำเลที่เหมาะกับการอยู่อาศัย ทั้งในแง่การเดินทางที่สะดวกสบาย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เทียบเท่ากับฝั่งใจกลางย่านธุรกิจอื่นๆ ของกรุงเทพฯ โดยโครงการไอคอนสยามได้เติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัย การทำธุรกิจ และเสริมความโดดเด่นให้กับพื้นที่ในเรื่องการคมนาคมทั้งระบบรถ-ราง-เรือ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีทองซึ่งกำลังก่อสร้างมีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2564

นางสาวศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ไอคอนสยามสร้างประสบการณ์ใหม่และสร้างประโยชน์ให้กับกรุงเทพฯ เหมือนกับที่ลอนดอนอาย (London Eye) สร้างประโยชน์ให้กับเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ และเหมือนกับที่สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ (Botanic Gardens) และมารินา เบย์ แซนด์ (Marina Bay Sands) สร้างประโยชน์ให้กับประเทศสิงคโปร์ และเป็นการเพิ่มแม่เหล็กทางด้านการท่องเที่ยวที่มีประสิทธิภาพดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทั้งประเทศไทยและทั่วโลกให้มาเยี่ยมชม
ทั้งนี้ส่งผลดีต่อโรงแรมและการท่องเที่ยว ซึ่งพบว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมระดับ 5 ดาวในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น

นาวาโท ปริญญา รักวาทิน นายกสมาคมการค้าธุรกิจในแม่น้ำเจ้าพระยา กล่าวว่า กิจการต่างๆ ตลอดลำน้ำเจ้าพระยา เขตคลองสาน และพื้นที่โดยรอบในย่านเจริญนครต่างได้รับประโยชน์ ทั้งร้านค้า ภัตตาคาร และโรงแรม มีจำนวนผู้มาใช้บริการและมียอดขายที่เพิ่มขึ้น ภาพรวมของธุรกิจในแม่น้ำเจ้าพระยาเติบโต 20% มีการลงทุนต่อเนื่องทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ โรงแรมระดับ 5 ดาว โครงการมิกซ์ยูส รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว ภัตตาคาร ร้านอาหาร เรือนำเที่ยว เรือดินเนอร์กลางคืน ฯลฯ ระบบการเดินทางโดยแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น 10-15% เรือด่วนและเรือท่องเที่ยวมีผู้สัญจรทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มจากประมาณ 4 หมื่นคนต่อวันเป็น 5 หมื่นคนต่อวัน เพิ่มขึ้นถึงวันละ 10,000 คน หรือปีละ 3,650,000 คน

นายอาภรณ์ กุลวัฒโท ประธานสภาวัฒนธรรมเขตคลองสาน กล่าวว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาไอคอนสยามช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่คนในพื้นที่ทำให้ไม่ต้องเดินทางออกไปหางานทำในพื้นที่อื่น อีกทั้งยังช่วยดึงดูดคนเป็นจำนวนมากให้เข้ามาเยี่ยมเยือนและจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่มากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

*** เพิ่มแม็กเน็ตอีกดึงลูกค้าเพิ่มตัว

ขณะที่แม่เหล็กหรือแม็กเน็ตใหม่ๆ ที่จะเติมเต็มเข้ามาอีกเพื่อดึงนักท่องเที่ยวอย่างน้อยมีอีก 4 อย่าง คือ
1. ซูเปอร์ปาร์ก สวนสนุกซึ่งรวบรวมกิจกรรมที่ปลอดภัยและสนุกสนานเป็นครั้งแรกจากประเทศฟินแลนด์ พื้นที่กิจกรรมกว่า 4,000 ตารางเมตร มีเครื่องเล่นและกิจกรรมกีฬาที่สนุกสนาน พร้อมพัฒนาทักษะการกีฬาและเสริมสร้างพลานามัยให้แก่เด็กๆ และครอบครัว


2. Blue by Alain Ducasse ภัตตาคารฝรั่งเศสไฟน์ไดนิ่งสุดหรูโดยเชฟ Alain Ducasse หนึ่งในสองพ่อครัวระดับโลกที่ครอบครองมิชลินสตาร์กว่า 21 ดวง และยังการันตีความอร่อยด้วยร้านอาหาร 30 แห่งใน 7 ประเทศ ตั้งแต่ร้านอาหารบิสโทรแท้และบราสเซอรี ไปจนถึงร้านอาหารมิชลินสตาร์ถึง 3 แห่งทั่วโลก ในครั้งนี้ Alain Ducasse ได้สร้างแบรนด์ใหม่ให้ประเทศไทยโดยเฉพาะที่ชั้น 1 ไอคอนลักซ์ ปลายเดือนพฤศจิกายน

3. %ARABICA ร้านกาแฟชั้นนำสัญชาติญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ที่มีมากกว่า 44 แห่งใน 12 ประเทศทั่วโลก จะมาเปิดแฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกในประเทศไทยที่ไอคอนสยาม ได้รับการออกแบบโดย Nomura บริษัทออกแบบชั้นนำของญี่ปุ่นที่ได้รับรางวัลการันตีมากมาย

4. เดียร์ทัมมี่ (Dear Tummy) ซึ่งเป็น Foods Market คอนเซ็ปต์ใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทยโดยคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากทั่วโลกมารวมไว้ที่แห่งเดียว พร้อม Food Artisans ผู้เชี่ยวชาญ ที่พร้อมเสนอเมนูความอร่อยรวมถึงสินค้าหลากหลายในแผนกโกรเซอรี ที่ชั้น G, ICONSIAM

**** ทรูไอคอนฮอลล์-รถไฟฟ้า ใกล้เปิด


ส่วนพื้นที่ 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่ประกาศไว้ ก็เปิดบริการแล้วเกือบทั้งหมด
1. สุขสยาม ความสำเร็จของมหาปรากฏการณ์ที่รวบรวม Local Heroes ศิลปิน ช่างฝีมือ ผู้ประกอบการ และวิสาหกิจชุมชนจำนวนมากที่ไม่มีโอกาสได้ทำการค้าขายในกรุงเทพฯ มีคนเข้ามาแล้วไม่ต่ำกว่า 50,000-70,000 คนต่อวัน ผนวกกับการช่วยเหลือและส่งเสริมความรู้และการทำการตลาด และ modern trade ให้ผู้ประกอบการเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวจนได้มีโอกาสไปทำธุรกิจในต่างประเทศแล้วอีกด้วย

2. ริเวอร์ปาร์ก พื้นที่ในโครงการขนาดใหญ่ 10 ไร่ กลายเป็นพื้นที่สำคัญที่ชุมชนสามารถมาใช้ประโยชน์ได้เสมือนเป็นระเบียงหน้าบ้าน มีการใช้พื้นที่ในการจัดประเพณีไทย 12 เดือน เต็มตลอดทุกเดือน กลายเป็น world class destination ที่สามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วประเทศและทั่วโลก

3. การแสดงระบำสายน้ำ แสง สี เสียง มัลติมีเดีย ที่ยาวและยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุดยังได้รับคัดเลือกให้ได้รางวัลชนะเลิศ รางวัล Gold Stevie Award 2019 สาขา Art, Entertainment & Public - Art Event จาก The International Business Awards การประกวดธุรกิจนานาชาติประจำปี 2019 บนเวทีระดับโลก

4. ริเวอร์ มิวเซียม แบงค็อก พื้นที่ศิลปะและพิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทย โดยได้เปิดเฟสแรก ‘ไอคอนสยาม อาร์ต สเปซ’ เมื่อเดือนกันยายน ศกนี้ พื้นที่ 2,000 ตร.ม. โดยงานแรกกลุ่มบริษัทโตชิบา ประเทศไทย ได้จัดนิทรรศการศิลปกรรม “นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” งานแสดงผลงานจากประกวดศิลปกรรม “นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” ของศิลปินทั่วประเทศ ภายใน 1 เดือนถึงวันนี้มีผู้ชมงานมากถึง 100,000 คน หลังจากนี้จะเปิดเฟสสอง คือ ‘ริเวอร์ มิวเซียม ฮอลล์’ จะเป็นพื้นที่สำหรับการจัดแสดงงานสำคัญจากทั่วโลก และการร่วมมือกับแบรนด์ดังระดับโลก และส่วนสุดท้ายคือ ‘ริเวอร์ มิวเซียม แบงค็อก’ ซึ่งจะเป็นพิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทย จะเปิดให้บริการปลายปี 2563

5. ปรากฏการณ์รวมโลกในรอยไทย จากศิลปินไทยระดับอาจารย์ ศิลปินแห่งชาติ ศิลปินท้องถิ่นจากทั่วประเทศไทย และรวมถึงผลงานสร้างสรรค์โดยศิลปินต่างชาติ กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วทั้งโครงการกว่า 100 ชิ้น


6. ทรู ไอคอน ฮอลล์ ศูนย์การประชุมระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทย บนชั้น 7 ด้วยความจุขนาด 2,700 ที่นั่ง คาดว่าจะเปิดกลางปีหน้า

7. รถไฟฟ้าสายสีทอง ซึ่งเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวผ่านถนนเจริญนครไปสิ้นสุดที่โรงพยาบาลตากสินรวม 3 สถานี และในอนาคตจะเป็น Feeder Line ที่เชื่อมเข้ากับรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วง ขณะนี้อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้กลางปี 2563




กำลังโหลดความคิดเห็น