"ฟัลครัม" จับมือทุนสิงคโปร์ “กรีนฟิลด์” รุกอสังหาฯ ไทย ตั้งเป้าภายใน 5 ปี มีโรงแรม 10 แห่ง กว่า 800 ห้อง พร้อมจ่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยปี 63 ผุดบ้าน 3 โครงการ มูลค่า 5,000 ล้านบาท ล่าสุด เปิดตัวบ้านหรู “พานารา เทพารักษ์”
นายสมศักดิ์ ศรีคุรุวาฬ ผู้อำนวยการ บริษัท ฟัลครัม เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวถึงความเป็นมาของการจับมือเป็นพันธมิตรธุรกิจจากประเทศสิงคโปร์ กลุ่มบริษัท กรีนฟิลด์ แอดไวซอรี่ จำกัด (Greenfield Advisory Pte Ltd Singapore) เพื่อก่อตั้งบริษัท ฟัลครัม เวนเจอร์สฯ ว่า เริ่มจากการชักชวนโดยเข้ามาซื้อกิจการโรงแรมและคอนโดมิเนียมแอสพีร่า ที่สมุยเป็นแห่งแรก จากนั้นซื้อที่ดินเปล่าที่ป่าตอง ภูเก็ต และตามมาด้วยโรงแรม แกรนด์ สวิส สุขุมวิท 11 เป็นต้น จนถึงปัจจุบันฟัลครัม เวนเจอร์สฯ มีสินทรัพย์ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ และที่ดินเปล่าหลายแห่ง
ทั้งนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขาย โดยเลือกที่จะลงทุนในโครงการแนวราบเป็นหลัก เนื่องจากเป็นลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ไม่มีเก็งกำไร ขณะที่ตลาดคอนโดมิเนียมอยู่ในภาวะชะลอตัวและมีแนวโน้มล้นตลาด โดยตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยปีละ 2-3 โครงการ โดยในปี 2563 มีแผนที่จะลงทุนโครงการแนวราบ 3 โครงการ มูลค่า 5,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังขยายธุรกิจอสังหาฯ ประเภทให้เช่าเพื่อสร้างรายได้ระยะยาว เช่น โรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ามีโรงแรมในเครือไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง กว่า 800 ห้อง ภายใน 5 ปี โดยปัจจุบันบริษัทมีโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 5 แห่ง จำนวน 400 ห้อง โดยในปี 2563 เตรียมลงทุนพัฒนาโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ระดับ 3-4 ดาว บนหาดป่าตอง จำนวน 300 ห้อง คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในปี 2566 ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้จากการขาย และรายได้จากการเช่าสัดส่วน 60:40 และมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 5 ปี
ด้าน นายดีภัค มิชรา ผู้ก่อตั้งบริษัท กรีนฟิลด์ แอดไวซอรี่ จำกัด กล่าวว่า กลุ่มกรีนฟิลด์ซึ่งมีที่ตั้งบริษัทแม่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมีประสบการณ์ลงทุนในธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ทั่วทุกทวีปในโลกมาต่อเนื่อง ทั้งในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง และยุโรป ได้เริ่มเข้ามาลงทุนในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2553 โดยในช่วง 5 ปีแรกเข้าลงทุนธุรกิจบริการประเภทโรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ต่อมาทำการศึกษาวิจัยหลายธุรกิจ แล้วจึงได้ขยายภาคการลงทุนสู่การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอสังหาริมทรัพย์ แม้ในช่วงปีที่ผ่านมา ธุรกิจนี้จะอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่เชื่อว่ายังเป็นธุรกิจที่มีโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และเติบโตได้ในอนาคต นอกจากนั้น ที่สำคัญยังเชื่อมั่นในศักยภาพ และเสถียรภาพของเศรษฐกิจของประเทศไทยที่มีความมั่นคงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยได้วางแผนงานพัฒนาโครงการไว้อย่างต่อเนื่องในอนาคต
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการ “พานารา เทพารักษ์” เป็นโครงการบ้านเดี่ยวบนที่ดินขนาด 30 ไร่ ติดถนนใหญ่ ต.บางปลา อ.บางพลี สมุทรปราการ มีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ ขนาดเล็กสุด 50 ตร.ว. เป็นรูปแบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถ 2 คัน สำหรับครอบครัวเริ่มต้น บ้านขนาดกลาง 60 ตร.ว. เป็นรูปแบบ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถ 2 คัน รองรับสำหรับการขยายขนาดครอบครัว และขนาดใหญ่สุด 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถ 3 คัน สำหรับบ้านขนาดใหญ่สุดนั้นมีพื้นที่ใช้สอยถึง 367 ตร.ม. ที่มาพร้อมลิฟต์โดยสาร 1 ตัว และห้องแม่บ้านที่มีห้องน้ำในตัวแบบแยกทางเข้าออกจากทางหลักของบ้าน ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 7-15 ล้านบาท โดยมีทั้งหมด 129 หลัง มูลค่าโครงการประมาณ 1,250 ล้านบาท
