นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า การหารือระหว่างนายสมคิด และนายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ว่า การนัดหมายครั้งนี้เป็นการนัดหมายกันไว้ล่วงหน้า ไม่ใช่การนัดพบด่วนแต่อย่างใด และไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ กับเรื่องของกระแสข่าวจีเอสพีและการแบน 3 สารอันตราย ตามที่มีกระแสข่าวเกิดขึ้น แต่เป็นการหารือร่วมกันเพื่อเตรียมการการประชุมอินโดแปซิฟิกบิสิเนสฟอรั่ม ในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้
ทั้งนี้ อุปทูตสหรัฐฯ ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ก่อนเกิดกระแสข่าวความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ อยู่ในช่วงอัปสวิงหรือดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา เพราะไทยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างแท้จริง มีการทำงานกันอย่างใกล้ชิดในเรื่องของความมั่นคงในภูมิภาค และสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับไทยจริงๆ แม้จะถูกตัดจีเอสพีไปบ้าง แต่ไทยก็เป็นเบอร์หนึ่งของสหรัฐฯ อยู่ดี ซึ่งเห็นได้จากไทยได้รับสิทธิจีเอสพีจากสหรัฐฯ มากที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตาม นายสมคิด ได้สอบถามเรื่องของการตัดจีเอสพี ซึ่งอุปทูตสหรัฐฯ ยืนยันว่าเป็นการทำงานตามขั้นตอนปกติอยู่แล้วและยังไม่ได้เป็นที่ยุติ ยังสามารถพิจารณาทบทวนได้อีก ขณะที่เรื่องของการแบน 3 สารอันตรายก็ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน ขณะเดียวกัน อุปทูตสหรัฐฯ ต้องการให้ไทยช่วยศึกษาเชิงวิชาการด้วยว่าในเรื่องของสารอันตรานั้นว่า มีผลกระทบประมาณใด และอยากรู้ว่า เรื่องของสารตกค้างระดับใดที่ไทยสามารถยอมรับได้ เพราะสหรัฐฯ เป็นผู้ส่งออกถั่วเหลืองมายังไทย จึงกังวลใจ