สนพ.รับนโยบาย "สนธิรัตน์" เร่งศึกษาแผนเร่งด่วนปรับโครงสร้างราคาน้ำมันหวังเป็นของขวัญมอบภาคประชาชน โดยเล็งปรับสูตรคำนวณราคาหน้าโรงกลั่นให้สอดรับกับสถานการณ์ ส่วนภาษีฯ และกองทุนฯ แต่ละหน่วยงานจะมีความเห็นเข้ามาประกอบ
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มอบหมายให้ สนพ.ทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเพื่อเป็นหนึ่งในของขวัญที่จะมอบแก่ภาคประชาชนนั้น ขณะนี้สนพ.อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางดำเนินงานอย่างละเอียดคาดว่าจะแล้วเสร็จ พ.ย.นี้ ซึ่งเบื้องต้นอาจมีการปรับสูตรการคำนวณราคาหน้าโรงกลั่น
"โครงสร้างราคาน้ำมันส่วนหนึ่งอาจจะมาจากสาธารณะ ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ สนพ.เองก็รับโจทย์มาดูในภาพใหญ่ ก็กำลังดูรายละเอียดอยู่เพื่อนำเสนอ รมว.พลังงานต่อไป โดยหลักๆ ที่ดูเบื้องต้นคืออาจปรับสูตรการคำนวณราคาหน้าโรงกลั่น ก็ต้องไปดูว่าอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ส่วนจะทำให้ราคาน้ำมันลดลงได้หรือไม่ก็ต้องดูอีกครั้ง" นายวัฒนพงษ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันนั้นมีองค์ประกอบหลายส่วน โดยเรื่องของภาษีสรรพสามิตไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพลังงาน จึงต้องหารือกับคลัง ขณะที่การเก็บเงินน้ำมันเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดูแลโดยตรง และอีกส่วนคือเงินที่เก็บเข้ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่หน่วยงานต่างๆ ก็จะต้องดูและนำความเห็นในส่วนนี้ประกอบด้วย
สำหรับการปรับปรุงแผนพัฒนาไฟฟ้าระยะยาว 20 ปี (พีดีพี 2018) จะเร่งทำให้เสร็จภายใน 3 เดือน หรือภายในมกราคม 2563 โดยโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลจะไม่ปรับแต่อย่างใด จะปรับเพียงในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่มีสัดส่วน 20% ของกำลังผลิตไฟฟ้า โดยที่จะปรับให้พลังงานทดแทนเข้าระบบเร็วขึ้น และอาจจะเพิ่มสัดส่วนเชื้อเพลิงชีวมวล ก๊าซชีวภาพให้เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งจะอยู่ในสัดส่วนของโรงไฟฟ้าชุมชน
สำหรับกรณีของการผลิตไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชนที่กำหนดไว้แผนเดิม 1 หมื่นเมกะวัตต์อาจจะมีการปรับลดสัดส่วนลงมา เนื่องจากขณะนี้มีการนำร่องรับซื้อ 100 เมกะวัตต์ในปี 2562 แล้ว พบว่ามีการเสนอเข้าเพียง 1 เมกะวัตต์เท่านั้น อาจเป็นเพราะยังขาดแรงจูงใจในส่วนของอัตรารับซื้อไฟเข้าระบบไม่มากนัก