ผู้จัดการรายวัน360 – “เอสแอนด์พี” ทุ่มงบ 300 ล้านบาท ลุยเปิดเครือข่ายสาขา ทั้งร้านเบเกอรี่ ร้านอาหารแบรนด์เดิม พร้อมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ลงตลาดขยายฐานตลาด
นางเกศสุดา ไรวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯวางงบประมาณการลงทุนในปี 2561 นี้ ไว้ประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อการขยายธุรกิจทั้งการเปิดตัวร้านอาหารแบรนด์ใหม่ๆ ต่อเนื่อง และการขยายสาขาร้านอาหารแบรนด์เดิม รวมทั้งร้านบเกอรี่ด้วย โดยคาดว่าปีนี้จะเปิดสาขาใหม่รวมประมาณ 30 แห่งในไทย และประมาณ 4 แห่งในต่างประเทศ ซึ่งสัดส่วนรายได้มาจากไทย 85% และต่างประเทศ 15%
ในส่วนของตลาดต่างประเทศ ปีนี้เปิดไปแล้ว 3 แห่ง ที่กัมพูชา เป็นร้านเอสแอนด์พี และปลายปีนี้จะเปิดร้านภัทราอีก 1 แห่งที่อังกฤษ ซึ่งการเปิดร้านอาหารต่างประเทศอาจจะน้อยกว่าแผนงานที่วางไว้เล็กน้อย เนื่องจากติดปัญหาด้านการหาทำเลสถานที่เปิดร้าน รวมทั้งปัญหาด้านบุคลากรที่มีทักษะที่ขาดแคลนด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับการขยายธุรกิจในไทยนั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดว่าจะเปิดสาขาใหม่ทั้งหมดรวม 30 กว่าสาขา เป็นร้านเบเกอรี่มากกว่าร้านอาหาร ซึ่งปัจจุบันมีร้านรวมมากกว่า 500 แห่ง แยกเป็นร้านอาหารประมาณ 150 สาขา และร้านเบเกอรี่ประมาณ 350 สาขา
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีการเปิดตัวร้านอาหารแบรนด์ใหม่ๆ ด้วย เพื่อสร้างความหลากหลายและการขยายกลุ่มเป้าหมายเพื่อจับคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ตามพฤติกรรมและความต้องการของตลาด ซึ่งร้านแบรนด์ใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิดตัว เช่น ร้านนายห้าง เปิดตัวปีนี้ ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยจีนที่นำอาหารดังๆมาบริการด้วยสูตรของเอสแอนด์พีเองที่มีความเชี่ยวชาญในด้านอาหารจีนด้วยจากเดิมที่เคยมีร้านมังกรทอง เปิดสาขาแรกที่โครงการ ล้ง ริมน้ำเจ้าพระยา และก่อนหน้านี้ได้ร่วมทุนกับทางญี่ปุ่นเปิดร้านอาหารสุขภาพเน้นเมนูที่ทำมาจากเต้าหู้เป็นหลัก ร้านชื่อว่า อูเมโนะ ฮานะ มี 3 สาขาแล้ว เช่น ที่เมกาบางนา และร้านเฮดควอเตอร์ เปิดสาขาแล้วที่ ตึกอิตัลไทยทาวเวอร์ และเมกาบางนา เป็นต้น
นางเกศสุดา กล่าวด้วยว่า นอกจากการขยายสาขาแล้ว ยังขยายช่องทางด้วยการทำจัดส่ง หรือดีลิเวอรี่มากขึ้นด้วย ซึ่งแต่เดิมจะบริการผ่านแอปพลิเคชันของแอสแอนด์พี แต่ขณะนี้เราจะมีการปรับโลโก้ใหม่ ขณะเดียวกัน ก็ยังมีความร่วมมือกับคู่ค้า คือ ฟู้ดแพนด้า, ไลน์แมน และ แกรบ เป็นต้น ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนจากลูกค้าที่สั่งผ่านแอป และดีลิเวอรี่ ประมาณ 10% โดยใช้งบการตลาดประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี
ปัจจุบันร้านอาหารในเครือเอสแอนด์พี มีหลายแบรนด์ เช่น เอสแอนด์พี ภัทรา ร้านพาทิโอ ร้านวะนิลา ร้านอูเมโนฮานะ ร้านไมเซน ร้านสุดา ร้านบางกอกแจม ส่วนในต่างประเทศก็มีที่เซี่ยงไฮ้ เปิดร้านวะนิลา ที่อังกฤษ เปิดร้านภัทรา ที่สิงค์โปร์ เปิดร้านบางกอกแจม เป็นต้น
นายวิฑูร ศิลาอ่อน กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายปฏิบัติการและบุคคล กล่าวว่า เอสแอนด์พี อยู่ระหว่างการปรับกลยุทธ์ ด้วยการทำคัสตอมไมซ์ลูกค้า โดยแยกลูกค้าเป็นกลุ่มๆตามทำเล เช่น กลุ่มศูนย์การค้า กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มปั๊มน้ำมัน เป็นต้น เพื่อทำตลาดและพัฒนาสินค้ารวมทั้งการบริการ เพื่อให้สอดคล้องกับแต่ละกลุ่มทำเล เช่น ทำเลศูนย์การค้าลูกค้าจะมาเวลากลางวันและเย็นเป็นหลัก ส่วนอาคารสำนักงานจะต้องมีบริการอาหารที่รวดเร็ว หรือในโรงพยาบาลต้องเน้นเรื่องสุขภาพ และลูกค้าจะมามากช่วงเช้าและเย็น เนื่องจากไลฟ์สไตล์คนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว