“พาณิชย์” จับมือหน่วยงานพันธมิตรจัดงาน “สร้างงาน สร้างตลาด สร้างโอกาส สร้างรายได้” เพื่อจังหวัดพัทลุง ปัตตานี และนราธิวาส 6-9 ก.ค.นี้ เตรียมนำสินค้าธงฟ้าราคาถูกจำหน่ายช่วยลดค่าครองชีพ พร้อมจัดบูทแนะนำการทำธุรกิจ ฝึกอาชีพ ทำอาชีพผ่านการลงทุนในแฟรนไชส์ และจัดเวทีเจรจาธุรกิจช่วยสร้างโอกาสในการจำหน่ายให้แก่สินค้าชุมชน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยในการลดค่าครองชีพ ช่วยสร้างรายได้ สร้างโอกาสในการทำอาชีพและทำธุรกิจ ต้องการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและให้ความช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดที่มีรายได้น้อยที่สุด 10 จังหวัด โดยล่าสุดมีกำหนดจัดกิจกรรมโครงการประชารัฐ “สร้างงาน สร้างตลาด สร้างโอกาส สร้างรายได้” เพื่อจังหวัดพัทลุง ปัตตานี และนราธิวาส ในวันที่ 6-9 ก.ค. 2561 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง และได้มอบหมายให้นายวิเชียร ชวลิต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการเปิดโครงการดังกล่าว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้จัดไปแล้วที่จังหวัดอำนาจเจริญและบุรีรัมย์
โดยการจัดงานในครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ธ.ก.ส. SME Bank ธนาคารออมสิน จัดบูทให้คำปรึกษาการทำธุรกิจและการส่งออก แนะนำตัวอย่างความสำเร็จในการทำธุรกิจ แนะนำการสร้างอาชีพให้ผู้มีรายได้น้อย เช่น อบรมทำก๋วยเตี๋ยวและกล้วยทอด แนะนำการสร้างงานสร้างอาชีพผ่านการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ที่ใช้เงินลงทุนไม่สูง และการให้คำปรึกษาด้านแหล่งเงินทุน เพื่อนำไปใช้ในการประกอบธุรกิจ รวมทั้งอบรมขั้นตอนการส่งออกและการขยายตลาดสู่ประเทศ CLMV
ขณะเดียวกันจะจัดเวทีการเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการท้องถิ่นจากจังหวัดพัทลุง นราธิวาส และปัตตานี และห้างโมเดิร์นเทรด เป้าหมายจำนวน 100 ราย เพื่อให้สินค้าชุมชนได้มีโอกาสในการจำหน่ายเพิ่มขึ้น และสร้างรายได้ให้แก่ผู้ผลิตในระดับฐานราก และยังมีแผนที่จะผลักดันให้สินค้าชุมชนเข้าไปจำหน่ายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ โดยมีผลิตภัณฑ์เด่นที่จะนำมาจำหน่ายพร้อมกับการสร้างเครือข่ายกับห้างโมเดิร์นเทรด เช่น ข้าวสังข์หยดอบกรอบ กาแฟข้าวสังข์หยด หมอนยางพารา และหมอนยางพาราผสมผงถ่าน กล้วยไข่แก้ว และเครื่องแต่งกายผ้าบาติก เป็นต้น
สำหรับกิจกรรมลดค่าครองชีพจะจัดงานจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด นำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวันมาจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาด 20-40% จำนวน 60 คูหา และยังมีสินค้าส่งเสริมการขาย ซึ่งจะจำหน่ายในราคาพิเศษอีก 12 คูหา เช่น ไข่ไก่ เนื้อหมูชำแหละ และน้ำมันพืช เป็นต้น ขณะเดียวกัน ได้เปิดโอกาสให้มีการนำสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) มาจำหน่ายด้วย 3 คูหา สินค้าจากผู้ประกอบการ MOC Biz Club อีก 5 คูหา และสินค้าจากผู้ประกอบการชุมชน 35 คูหา (พัทลุง 15 คูหา ปัตตานี 10 คูหา และนราธิวาส 10 คูหา)
อย่างไรก็ตาม หลังจากจัดงานที่พัทลุงในครั้งนี้แล้ว กระทรวงฯ จะจัดงานในจังหวัดที่มีรายได้น้อยสุด 10 จังหวัด ที่เหลือต่อไป ได้แก่ น่าน ชัยนาท กาฬสินธุ์ นครพนม แม่ฮ่องสอน และตาก ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จภายในปี 2561 นี้