xs
xsm
sm
md
lg

สาวกาฬสินธุ์ร้อง! ถูกหลอกขายกล้องทางไลน์ สุดท้ายตกเป็นผู้ต้องหาถูกแจ้งความฉ้อโกง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางอมรรัตน์ สุพรรณโมก แม่ และนางสาวทิวากร สุพรรณโมก ลูกสาว เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์
กาฬสินธุ์ - นักศึกษาสาวโร่ขอความเป็นธรรมต่อผู้การตำรวจกาฬสินธุ์ หลังถูกหมายเรียกโรงพักหลายแห่งแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน เผยถูกหลอกสมัครเป็นตัวแทนขายกล้องทางไลน์หวังหาทุนการศึกษา แต่ต้องตกเป็นผู้ต้องหา ยืนยันไม่เกี่ยวข้อง

วันนี้ (5 ก.ค. 61) ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ นางอมรรัตน์ สุพรรณโมก อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 หมู่ 4 บ้านหนองบัว ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พร้อม น.ส.ทิวากร สุพรรณโมก ลูกสาว อายุ 19 ปี นำเอกสารหมายเรียกจากหลายโรงพักเข้าพบ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ขอความเป็นธรรมและแนวทางช่วยเหลือด้านคดี หลัง น.ส.ทิวากร ลูกสาวซึ่งกำลังจะเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยถูกหลอกให้สมัครเป็นตัวแทนขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ตผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์จนตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงหลายคดี

ที่ผ่านมาได้พาบุตรสาวไปให้ปากคำต่อตำรวจแล้วทุกแห่งแล้วเพื่อยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจ แต่เกิดความไม่สบายใจกังวลว่าจะถูกดำเนินคดีจึงมาร้องขอความเป็นธรรม ทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาคนร้ายตัวจริงดำเนินคดี

น.ส.ทิพากร สุพรรณโมก ผู้เสียหาย กล่าวว่าเมื่อช่วงประมาณต้นเดือน เม.ย. 61 ที่ผ่านมาได้รับการเชิญชวนให้สมัครเป็นตัวแทนขายสินค้า จึงแชตไลน์เข้าไปสมัครงานตามที่ประกาศรับสมัคร โดยเป็นตัวแทนขายกล้องถ่ายรูปทางอินเทอร์เน็ต เพราะมีการเสนอรายได้เดือนละ 12,000 บาท และเงินรางวัลอื่นๆ ล่อใจ เมื่อตกลงสมัครเข้าไปแล้วคนที่ประสานงานมาได้ให้ตนไปเปิดบัญชีธนาคารแล้วส่งสมุดเงินฝาก บัตรเอทีเอ็ม และบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงทั้งหมดไปที่บริษัทดังกล่าว โดยแชตไลน์ติดต่อกับผู้หญิงตัวแทนบริษัทดังกล่าว แต่ไม่รู้จักชื่อและไม่เคยเห็นหน้าตา กระทั่งเวลาผ่านไปมีคนแชตเข้ามาสอบถาม และต่อว่าทางไลน์ว่าสั่งซื้อกล้องโอนเงินเข้าบัญชีแล้วแต่ไม่ได้รับสินค้า จึงรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอก โดยหลอกลูกค้าโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของตนแล้วไม่ส่งสินค้า

ผู้เสียหายคนแรกแชตมาทวงสินค้าวันที่ 7 พ.ค. รู้สึกผิดปกติจึงไปขอดูรายการเดินบัญชีกับทางธนาคาร พบว่ามีเงินเข้าบัญชีจำนวนกว่า 170,000 บาท แต่ตนไม่ได้ใช้เงินสักบาท จึงสั่งอายัดบัญชี จากนั้นมาแจ้งความที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้น ต่อมาวันที่ 21 พ.ค.ได้รับหมายเรียกจาก สภ.ปทุมวัน กรุงเทพฯ ข้อหาฉ้อโกง, วันที่ 1 มิ.ย.ได้รับหมายเรียกจาก สภ.เมืองอุบลราชธานี ข้อหาฉ้อโกง, วันที่ 22 มิ.ย.ได้รับหมายเรียกจาก สภ.เกาะกูด จ.ตราด ข้อหาฉ้อโกง และวันที่ 25 มิ.ย.ได้รับหมายเรียกจาก สภ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ข้อหาฉ้อโกง ก่อนที่จะเดินทางไปให้ปากคำที่โรงพักทั้ง 4 แห่งตามที่มีหมายแจ้งมา วันนี้มาร้องขอความเป็นธรรมต่อ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เพื่อขอความเป็นธรรมเรื่องคดี ยืนยันในความบริสุทธิ์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงคนอื่นโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว

น.ส.ทิพากรกล่าวอีกว่า เรื่องทั้งหมดเกิดจากตนอยากมีรายได้เพื่อแบ่งเบาภาระพ่อแม่ที่รายได้ไม่มากนัก เพราะมีอาชีพรับจ้างรายวัน ไม่มีที่ดินทำกิน หวังจะมีรายได้เป็นทุนการศึกษาให้ตนเอง รวมทั้งค่าที่พักและค่าครองชีพ เพราะขณะนี้กำลังลงทะเบียนศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งจะเปิดภาคเรียนในเดือนสิงหาคมจะถึงนี้ แต่กลับมาถูกหลอกดังกล่าว

ด้าน พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการสอบถาม น.ส.ทิวากร และนางอมรรัตน์ พบว่ากำลังได้รับความเดือดร้อนจากการได้รับหมายแจ้งข้อหาฉ้อโกง และยืนยันในความบริสุทธิ์ของตน ซึ่งต้นเหตุอาจจะเกิดจากความใสซื่อตามประสาวัยรุ่นที่ชอบแชตไลน์ จึงเป็นช่องทางให้ถูกอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตแอบอ้างหลอกลวงประชาชนรายอื่นที่หลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร

ในส่วน น.ส.ทิวากรจะตกเป็นเหยื่อได้รับข้อกล่าวหาฉ้อโกง หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนร้ายอย่างไรหรือไม่นั้น การติดตามสืบสวนทางคดีได้มอบหมายให้กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เร่งเกาะรอยคนร้าย ทั้งจากหลักฐานติดต่อทางไลน์ รวมถึงช่องทางอื่น ด้านแนวทางการให้คำปรึกษาสองแม่ลูกนั้น หากมีหมายจากโรงพักอื่นมาถึงอีกต้องไปตามหมาย พยายามรวบรวมหลักฐานให้มากที่สุดเพื่อให้สาวไปถึงตัวคนร้าย และให้ปากคำตามความจริง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ จะดำเนินการตามแนวทางสืบสวนสอบสวนควบคู่กันไป


กำลังโหลดความคิดเห็น