“กกพ.” เคาะตรึงค่าไฟงวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค. 61) คงเดิม ส่งผลให้ตลอดปีนี้ค่าไฟไม่เปลี่ยนแปลงหลังมีเงินสะสม 15,279 ล้านบาท ควักอุดหนุน 3,933 ล้านบาทเบรกขึ้น 7.46 สตางค์/หน่วย แถมงวดหน้าพร้อมควักอุดหนุนตรึงต่อยาวถึง เม.ย. 62
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษกของ กกพ. เปิดเผยว่า กกพ.เห็นชอบตรึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2561 คงเดิมไว้ที่ลบ 15.90 สตางค์/หน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฐานจะทำให้ประชาชนจ่ายค่าไฟฟ้าคงเดิมเช่นกันที่ 3.5966 บาท/หน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งเป็นการตรึงค่าไฟงวดที่ 4 ติดต่อกันตั้งแต่งวด ก.ย.-ธ.ค. 60 และมีแนวโน้มจะตรึงต่อไปได้ในงวด ม.ค.-เม.ย. 62
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาแนวโน้มเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้นและการอ่อนตัวของค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้เอฟทีในงวดนี้ (ก.ย.-ธ.ค. 61) จะเพิ่มขึ้นถึง 7.46 สตางค์ต่อหน่วย แต่ กกพ.ได้นำเงินค่าเอฟทีสะสมไว้ที่มีอยู่รวม 15,279 ล้านบาทซึ่งเกิดจากการใช้ไฟที่ลดลง การผลิตไฟจากน้ำเพิ่มขึ้น นำมาพยุงค่าเอฟทีในรอบนี้ไว้ 3,933 ล้านบาท
ทั้งนี้ หาก กกพ.นำเงินทั้งหมดมาอุดหนุนค่าไฟทั้งหมดเลยจะทำให้ค่าเอฟทีงวดนี้ลดลงได้ถึง 20 สตางค์/หน่วย แต่เนื่องจากพิจารณาแนวโน้มราคาก๊าซฯ งวด ม.ค.-เม.ย. 62 จะปรับขึ้น ซึ่งคาดว่าจะทำให้ค่าไฟปรับขึ้นราว 5.6 สตางค์/หน่วย รวมถึงทิศทางค่าเงินบาทอาจอ่อนค่าจึงเห็นควรตรึงเอฟทีและเก็บเงินที่เหลือไว้ประมาณ 11,364 ล้านบาทเพื่อบริหารในงวดต่อไปที่คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 8,000 กว่าล้านบาท แต่ทั้งนี้อยู่ที่ค่าเงินบาทจะอ่อนค่ามากน้อยเพียงใด แต่หากพิจารณาครั้งนี้ก็จะตรึงค่าไฟได้ถึงงวดหน้าปี 2562
“ราคาก๊าซธรรมชาติเชื้อเพลิงหลักปรับขึ้นจากงวดก่อน 17.54 บาท/ล้านบีทียูมาอยู่ที่ 279.94 บาท/ล้านบีทียู ค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยจาก 32.05 บาท/เหรียญสหรัฐมาอยู่ที่ 32.14 บาท/เหรียญทำให้เอฟทีเพิ่มขึ้น 7.64 สตางค์/หน่วย” นายวีระพลกล่าว
สำหรับค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนตามนโยบายของภาครัฐในส่วนของ ADDER และ FiT ในงวดนี้ปรับเพิ่มขึ้นจาก 15,072 ล้านบาทมาอยู่ที่ 15,751 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 678.72 ล้านบาท แต่ด้วยการจำหน่ายไฟฟ้าในงวดใหม่นี้มีแนวโน้มลดลงจากปัจจุบันเมื่อเทียบเป็นอัตราต่อหน่วยแล้วจะทำให้ค่าใช้จ่ายดังกล่าวในงวด ก.ย.-ธ.ค. 61 ซึ่งอยู่ที่ 27.88 สตางค์ต่อหน่วย เพิ่มขึ้นจากงวดก่อนประมาณ 2.88 สตางค์ต่อหน่วย