“คมนาคม” เร่ง ร.ฟ.ท.ส่งข้อมูลเพิ่มเติม เสนอบอร์ด สศช.อนุมัติรถไฟสายสีแดงส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง ขณะที่รถไฟทางคู่เฟส 2 ยังไม่ก้าวหน้า จี้บอร์ดเร่งพิจารณา คาด ครม.สัญจรเคาะช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เติมเต็มโครงข่ายภาคเหนือตอนบน
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง และทางคู่เส้นทางใหม่ 2 เส้นทาง ระยะทางรวม 2,174 กม. มูลค่ารวม 427,012.03 ล้านบาท ได้รวมถึงรถไฟสายสีแดงส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง วงเงิน 24,241 ล้านบาท โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จัดทำข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อชี้แจงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ขออนุมัติ โดยยังคงตั้งเป้าหมายที่จะเสนอ ครม.ขออนุมัติให้ได้ภายปี 2561 นี้
สำหรับรถไฟสายสีแดงต่อขยาย 3 เส้นทาง หาก ร.ฟ.ท.จัดทำข้อมูลครบถ้วนจะเสนอคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ด สศช.) ในเดือน ก.ค.ได้ ส่วนทางคู่สาย เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. วงเงิน 72,921 ล้านบาท ซึ่งเป็นเส้นทางสายใหม่ และผ่านบอร์ด สศช.แล้วนั้นอยู่ในขั้นตอนตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 ก่อน และคาดว่าจะเสนอ ครม.ในการประชุม ครม.สัญจรพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่จังหวัดเชียงราย ช่วงวันที่ 23-24 ก.ค.นี้ พร้อมกับการรายงานความก้าวหน้าโครงข่ายรถไฟทางคู่ภาคเหนือ เส้นทางเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 217 กม. วงเงิน 59,992.44 ล้านบาท และเส้นทางปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 285 กม. วงเงิน 56,066.25 ล้านบาท
“คาดว่าจะมีการรับทราบแผนการพัฒนาโครงข่ายรถไฟทางคู่ในภาคเหนือตอนบนดังกล่าว ซึ่งจะเร่งรัดช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัยเพื่อให้โครงข่ายสมบูรณ์ ส่วนเส้นทางขอนแก่น-หนองคาย 174 กม. วงเงินประมาณ 26,000 ล้านบาท กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอบอร์ด สศช. แล้ว”
อย่างไรก็ตาม เพื่อเร่งรัดการดำเนินโครงการ ร.ฟ.ท.จะต้องจัดทำข้อมูลโครงการเสนอบอร์ด ร.ฟ.ท.พิจารณาในเดือน ก.ค.นี้ เพื่อส่งต่อมายังกระทรวงคมนาคมพิจารณาและเสนอ สศช.ต่อไป เช่น เส้นทางบ้านไผ่-นครพนม ระยะทาง 355 วงเงิน 60,351.91 ล้านบาท, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 23,384.91 ล้านบาท, สุราษฎร์ธานี-สงขลา ระยะทาง 339 กม. วงเงิน 51,823.83 ล้านบาท , หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 75 กม. วงเงิน 7,941.80 ล้านบาท, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 309 กม.วงเงิน 35,839.74 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาอนุมัติโครงการมีขั้นตอนที่ต้องทำตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ และสอบถามความเห็นจากหน่วยงาน เช่น สศช. กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง จึงต้องเร่งรัด ร.ฟ.ท.จัดส่งข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อชี้แจงหน่วยงานต่างๆ ซึ่งหาก ครม.เห็นชอบจะเร่งรัดการประมูลให้ได้ภายในปีนี้เช่นกัน
